โคนัน ยอดนักสืบจิ๋ว

ขอบคุณที่มา  http://www.youtube.com/watch?v=NpBwiDV-2AA

  คุโด้ ชินอิจิ นักสืบหนุ่ม นักเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนเทย์ตัน ซึ่งกำลังโด่งดังสุดขีด เพราะคลี่คลายคดียากๆมาหลายคดี และได้เป็นผู้ช่วยของส.เมงูเระด้วย 
วันหนึ่ง ชินอิจิ ได้ไปเที่ยวด้วยกันกับ โมริ รัน เพื่อนรัก และเผอิญได้พบกับกลุ่มชายชุดดำท่าทางน่าสงสัย ด้วยความที่เป็นคนช่างสงสัย ชินอิจิก็ได้สะกดรอยตามเขาไป และก็ได้ยินเรื่องที่เขาคุยกับ แต่ทว่า ชินอิจิก็โดนชายชุดดำลอบทำร้าย และโดนจับกรอกยา จนทำให้ตัวหดเล็กลงกลายเป็นเด็กอายุ 6ขวบ 
พอรู้สึกตัว ชินอิจิก็รีบไปหาดร.อากาสะ เพื่อขอความช่วยเหลือ และดร.ก็กำชับว่าอย่าบอกใคร พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่ว่า เอโดงาวะ โคนัน จากนั้น ก็ย้ายไปอยู่สำนักงานนักสืบซึ่งก็เป็นบ้านของรันนั่นเอง เพื่อสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับชายชุดดำไปในตัวด้วย
  แต่จนแล้วจนเล่าสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับชายชุดดำก็ยังไม่คืบหน้า แถมนักสืบที่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวอย่าง โมริ โคโกโร่ พ่อของรันนั้นกลับมีชื่อเสียงมากขึ้นทุกวัน แถมต้องมาร่วมกลุ่มเด็กๆชมรมนักสืบรุ่นจิ๋วด้วย แต่จนกระทั่งวันนึงก็มีเด็กผู้หญิงลึกลับคนหนึ่ง ได้ปรากฎตัวขึ้น ซึ่งเธอคือ ไฮบาระ ไอ เธอบอกกับชินอิจิ ว่า เธอเป็นคนผลิตยาที่ชินอิจิถูกกรอก ซึ่งยานั่นก็คือ APTX 4869 และเธอก็ได้หลบหนีออกจากองค์กรลับนั่น เนื่องจากไม่พอใจการกระทำของคนในองค์กร ดังนั้น เขา(โคนัน)และเธอจะต้องช่วยกันสืบหาเบาะแสและจัดการกับองค์กรชุดดำ รวมถึงการกลับมาเป็นร่างเดิมของพวกเขาทั้งคู่ ..........

ความคืบหน้าในการตามหาชายชุดดำ

  ยิ่งโคนันเพิ่มจำนวนเล่มมากขึ้น แต่เบาะแสในการตามหากลุ่มชายชุดดำก็ยังไม่ไปไหนซะที เชื่อว่าผู้อ่านบางคนถึงกับเซ็ง แถมรำพึงรำพันว่า ตกลงโคนันไม่อยากจะกลับร่างเดิมจริงหรือ? แถมจะต้องปิดบังตัวเองไม่ให้รันได้สงสัยอีก(ทั้งๆที่รันเกือบจับได้หลายตอนแล้ว) ก็เลยจะสรุปเกี่ยบกับความคืบหน้าเกี่ยบกับชายชุดดำของโคนันตั้งแต่เล่มแรกถึงเล่มล่าสุดกัน 

เล่ม 1 นักสืบม.ปลาย คุโด้ ชินอิจิ ถูกชายลึกลับในชุดดำ 2 คนจับกรอกยาพิษ กลายเป็นเอโดงาวะ โคนัน และ ย้ายไปหาเบาะแสที่สำนักงานนักสืบโมริ บ้านของรันตามคำแนะนำของดร.อากาสะ
เล่ม 2 ฮิโรตะ มาซามิ(มิยาโนะ อาเคมิ) ถูกชายลึกลับในชุดดำทั้ง2คน สังหารปิดปาก โดยโคนันรู้แต่ว่า เธอเป็นคนขององค์กรชุดดำเช่นกัน
เล่ม 4 เกิดคดีวางระเบิดในรถไฟความเร็วสูง แต่โคนันช่วยชีวิตทุกคนในรถไฟลำนั้นได้ และ รู้ชื่อโค้ดเนมของชายทั้ง2คนนั้นว่า ยิน และ ว้อดก้า 
เล่ม 5-6 โคนันถูกลักพาตัวโดยกลุ่มคนลึกลับ ที่สงสัยว่าเป็นกลุ่มชายชุดดำ แต่สุดท้ายเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะ กลุ่มคนที่ลึกลับนั้นก็คือ พ่อแม่ของชินอิจิ กับ ดร.อากาสะ วางแผนกันเพื่อทดสอบโคนันนั้นเอง 
เล่ม 12 เตกีล่า สมาชิกขององค์กรชุดดำถูกลอบสังหาร แต่ ยิน กับ ว้อดก้า ก็จัดการวางระเบิดตึกนั้น โคนันก็เลยตามหาเบาะแสไม่ทัน 
เล่ม 18 ไฮบาระ ไอ สาวน้อยปริศนาปรากฏตัว และ เผยว่า ยาที่ชินอิจิกินนั้น เป็น APTX 4869 ซึ่งตัวเธอเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง และ บอกอีกว่า เธอมีโค้ดเนมในองค์กรคือ เชอรี่ แต่เธอก็หนีออกจากองค์กรด้วยยาที่เธอทำเอง และแน่นอนว่า คนในองค์กรกำลังตามหาเธออยู่ 
เล่ม 19 ไฮบาระ เสียใจที่ โคนัน ไม่สามารถช่วยชีวิตพี่สาวของเธอได้ ซึ่ง พี่สาวของเธอนั้น ก็คือ มิยาโนะ อาเคมิ ที่ยืมชื่อของ ฮิโรตะ มาซามิ ซึ่งเป็นเหยื่อฆาตกรรมในคดีตอนท้ายเล่ม18 แถมโปรแกรมที่พวกเขาได้มาก็ถูกไวรัสขององค์กรชุดดำทำลายจนหมด 
เล่ม 24 โคนันกับไฮบาระ ก็แอบสะกดรอยตาม ยิน และ ว้อดก้า มาที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ต่อมา ไฮบาระก็ถูกจับตัว แต่ก็ได้เหล้าจีนช่วยคืนร่างเดิมก็เลยหนีออกมาได้ แต่ไม่วายถูกยินยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แถม ปิสโก้ สมาชิกในองค์กรชุดดำก็เผยตัว หมายจะสังหารไฮบาระ แต่โคนันก็ช่วยชีวิตเธอได้ และสุดท้าย ปิสโก้ก็ถูกยินสังหาร เนื่องจากทำงานผิดพลาด รวมถึง เปิดตัว เบลม็อต(เวอร์มอต)หรือ คริส วินยาร์ดว่า เป็นพวกชุดดำอีกด้วย มีจุดประสงค์จะตามตัวคนๆหนึ่ง 
เล่ม 26 ไฮบาระ คิดค้นยาที่ช่วยกลับคืนร่างเดิม ให้ โคนันได้กลับมาเป็นชินอิจิตามเดิม แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น 
เล่ม 27 อ.โจดี้ เซนต์มิลเลี่ยน (ซันมาริออน)ปรากฎตัว แถมทิ้งปริศนาลึกลับเอาไว้ในตอนท้ายด้วยว่า เธอเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มองค์กรชุดดำ 
เล่ม 29 ไฮบาระ หวาดกลัว เพราะ ได้กลิ่นของคนในองค์กร แถมต่อมาก็เกิดคดีปล้นจี้บนรถเมล์อีก และแน่นอนว่า อ.โจดี้ก็ยังน่าสงสัย พร้อมตอนท้าย อาคาอิ ชูอิจิ ชายลึกลับก็ปรากฏตัว 
เล่ม 32 เจมส์ แบล็ค ชายลึกลับปรากฏตัว แถมรู้จักกับ อาคาอิ ชูอิจิ เป็นการส่วนตัวด้วย 
เล่ม 33 โคนัน ได้ข่าวจาก ผู้หมวดทาคางิว่า มีคนลึกลับป้วนเปี้ยนแถวสำนักงานนักสืบโมริบ่อยๆ แถมแฟ้มคดีก็หาย และชายลึกลับคนนั้นก็คือ อาคาอิ ชูอิจิ 
เล่ม 34 โคนัน กับ ฮัตโตริ เฮย์จิ สงสัยในตัวอ.โจดี้มาก จึงไปสืบที่บ้านพักของอ.โจดี้ แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร
เล่ม 34 ดร. อากาสะ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ คำพูดปริศนาของ คริส วินยาร์ด ในงานศพ คุณแม่ของเธอ คือ ชารอน วินยาร์ด
เล่ม 35 เผยอดีตในคดี Golden Apple ที่ รัน ชินอิจิ ได้พบกับ ชารอน วินยาร์ด เป็นครั้งแรก แถมรัน ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก อาคาอิ ชูอิจิ และรันก็เข้าใจว่า ชูอิจิ คือ FBI
เล่ม 35 ไฮบาระ บอกว่า นุมาบุจิ คิอิจิโร่ อาชญากรที่โคนันเคยเจอในเล่ม19 แท้จริง ก็เป็นพวกคนชุดดำเช่นกัน
เล่ม 37-38 นักพัฒนาระบบเกมส์ที่ถูกฆาตกรรมนั้น จริงๆแล้วก็คือคนในองค์กรชุดดำ โคนันก็เลยวางแผนสะกดรอยไปตามจับว้อดก้า แต่แผนนี้ก็ล้มเหลว เพราะ ยินรู้แผนการของโคนันหมดแล้ว
เล่ม 41 เบลม็อตอ้างว่าพบตัวของไฮบาระแล้ว 
เล่ม 42 อ.โจดี้ ก็กระชากหน้ากากของเบลม็อตที่ปลอมตัวเป็น คุณหมอ อาราอิเดะ (ปรากฎตัวในเล่ม24) แถมยังเผยว่า ตัวเธอเป็น FBI จะมาตามจับเบลม็อตที่เคยฆ่าพ่อของเธอเมื่อ20ปีที่แล้ว และยังบอกอีกว่า ตัวจริงของเบลม็อตก็คือ ชารอน วินยาร์ดที่หลายๆคนคิดว่าตายไปแล้วนั่นเอง ก็เลยเกิดการต่อสู้กัน แต่ชูอิจิมาช่วยไว้ได้ทัน เบลม็อตก็เลยรีบหนีและก็รู้ความจริงว่าเป็นแผนการทั้งหมดของโคนัน เบลม็อตก็เลยใช้ยาสลบใส่โคนันและนำเทปนั้นไปทำลาย ในขณะที่ยินก็รู้ว่า คุโด้ ชินอิจิ นั้นยังมีชีวิตอยู่!!!!
เล่ม 43 ไฮบาระ ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการคุ้มกันพยาน ที่ โจดี้ เป็นคนเสนอมา โดยเธอกล่าวว่า เธอไม่อยากจะหลบหนีอีกแล้ว......

ขอขอบคุณที่มา  http://www.kartoon-discovery.com/  

  

เกมส์ sniper ghost warrior 2

ลิ้งอ้างอิง

http://www.youtube.com/watch?v=qHTLszULAYg

สงครามโลกครั้งที่ 2 [WORLD WAR II ]
     สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเกิดชึ้นในช่วง ค.ศ. 1939 – 1945 เป็นผลจากความขัดแย้งของประชาชาติต่าง ๆที่เกิดขึ้นสะสมมาก่อนเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 อันเนื่องมาจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจเงื่อนไขหรือข้อบังคับบทลงโทษตามสนธิสัญญาสันติภาพและความล้มเหลวขององค์การสันนิบาตชาติ  โดยชนวนที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพเยอรมนีบุกโปแลนด์แบบสายฟ้าแลบ (Blitzkrieg) เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ.1939เนื่องจากโปแลนด์ปฏิเสธที่จะยกเมืองท่าดานซิกและฉนวนโปแลนด์ให้เยอรมนี อังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งทำสัญญาค้ำประกันเอกราชของโปแลนด์ได้ยื่นคำขาดให้เยอรมนีถอนทหารออกจากโปแลนด์แต่ฮิตเลอร์ปฏิเสธ ดังนั้น ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1939 อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเยอรมนีการแบ่งกลุ่มของประเทศคู่สงคราม ฝ่ายอักษะ ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ฝ่ายพันธมิตรได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย  

( โดยมีพี่ไทยเล่าแอบๆช่วยเหลือในนาม เสรีไทย ( Free Thai Movement ) ดำเนินการร่วมมือและช่วยเหลือฝ่ายพันธมิตรอย่างลับๆ ไทยจึงรอดพ้นจากการเป็นฝ่ายผู้แพ้สงครามไปในทันที เย้…)

 

ซึ่งเยอรมันของฮิตเลอร์เข้าร่วมสงครามนี้ด้วยเหตุผลความเป็น ลัทธิชาตินิยม ของตัวเองแต่ไปอ้างความไม่ยุติธรรมของสนธิสัญญาแวร์ซาย ทำให้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีหันไปใช้ลัทธินาซี เพื่อสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับ Benito Mussolini  ผู้นำอิตาลีที่หันไปใช้ลัทธิฟาสซิสต์ นอกจากนี้ยังเกิดทฤษฎีชาตินิยมในเยอรมนีว่าด้วยความเหนือกว่าในทางเผ่าพันธุ์ ที่ทำให้ฮิตเลอร์ใช้นโยบายกวาดล้างชาวยิวในดินแดนยึดครองต่าง ๆ จนเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุที่โลกไม่มีวันลืม

                                  บทสรุป - Sniper Elite V2  [ Xbox 360 ] 
BY – Decibel per - oxide

 
                      
ปี 1945 Karl Fairburne สายลับของหน่วย OOS ถูกส่งตัวเข้าแทรกซึมไปยัง***งเบอร์ลินในช่วงวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ในแผนปฏิบัติการ์ณ Operation Overcast ซึ่งรัฐบาลสหรัฐต้องการให้ช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่มีฝีมือของนาซีที่อยากจะเปลี่ยนข้างเพื่อมาทำงานให้สหรัฐ และอีกเป้าหมายนึงคือ หยุดยั้ง สังหาร ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ V-2 rocket program ของนาซีให้หมด ก่อนที่ข้อมูลสำคัญทั้งหมดของจรวดขีปนาวุธชีวภาพ V-2 จะตกไปอยู่กับฝ่ายโซเวียต  ….

PROLOGUE

เมื่อเข้าสู่พื้นที่การรบชานเมือง***งเบอร์ลิน ช่วงแรกจะเป็นการ Tutorial เรียนรู้ระบบพื้นฐานในการต่อสู้และเอาตัวรอดทั้งหมดที่ต้องใช้ในเกม

 
-  เรียนรู้การใช้กล้องโดยกดแกนอนาล็อกขวา RS ลงไปตรงๆ แล้วใช้ปุ่มทิศทางขึ้นลงเป็นการซูมเข้าออก การใช้กล้องนี้นอกจจากจะมีประโยชน์ในการสังเกตการ์ณศัตรูในที่ไกล ๆ แล้ว ยังสามารถกด RT หมายหัวศัตรูเอาไว้ได้ด้วยเพื่อสะดวกในการจับตามการเคลื่อนไหวของมัน

- เรียนรู้การวิ่งด้วยการกดปุ่ม LB ค้างเอาไว้

- เรียนรู้การใช้อาวุธสริมที่มีอยู่ ซึ่งช่วงแรกจะมีแค่ Trip Mine ระเบิดกับดัก , Land Mine ระเบิดแบบฝังดิน  และ ROCK ที่ใช้ขว้างล่อศัตรู โดยการกดใช้ปุ่มทิศทางขึ้นลงเลือกใช้ Trip Mine แล้วกด RB ใช้ที่จุดแดงของประตูทั้ง 2 ด้าน เมื่อทหารเยอร์มันผ่านเข้ามาก็ตายลูกเดียว

-  เรียนรู้การการหมอบต่ำด้วยการกด B และการใช้ ก้อนหิน (Rock) โดยการกดใช้ปุ่มทิศทางขึ้นลงเลือกใช้ Rock แล้วกด RB ขว้างไปที่ประตูที่มีทหารเยอรมันอยู่ มันจะเดินออกมาดู ก็ทำให้สามารถอ้อมรถไปทางขวาเข้าประตูไปได้เลย

- เรียนรู้การการหมอบคลานเข้าช่องแคบด้วยการกดปุ่ม B ค้าง และ การเข้าที่กำบังโดยการกดปุ่ม Y เรียนรู้การเลือกอาวุธด้วยกรใช้ปุ่มทิศทางซ้ายและขวา โดยกดทางซ้ายจะเป็นการเลือกใช้อาวุธหลักคือปืน Sniper เมื่อต้องการสู้ในระยะไกล และกดทางขวาคือการเลือกใช้อาวุธรองคือพวก ปืนกลและปืนสั้นเมื่อต้องการสู้ในระยะประชิด ใช้ปืนสั้นยิงทหารเยอรมันที่หน้าประตูซะ

-   เรียนรู้การการค้นหาของจากศพ โดยเมื่อจัดการศัตรูจนตายแล้วสามารถกด X เพื่อเก็บอาวุธมาใช้ , กด X ค้างเพื่อค้นหากระสุนและระเบิดจากศพ และ กด A เพื่อยกศพมามาซ่อนจากสายตาศัตรู


 
จากนั้นเข้าไปในอาคารด้านในจะพบจุดส่องยิงเป้าหมาย Von Eseborg นายทหารเยอรมัน เมื่อเลือกใช้ปืน Sniper แล้วกด LT เพื่อเล็งเป้าหมายแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือเรียนรู้ระบบการเต้นของหัวใจและการหายใจก่อน เกททางซ้ายล่างคืออัตราการเต้นของหัวใจที่ทุกครั้งเมื่อเคลื่อนไหว วิ่ง หรือโดนยิงมันจะเต้นจนเป็นสีแดง และเมื่อยกปืนขึ้นเล็งแล้วอัตราการเต้นของหัวใจจะค่อยๆเข้าสู่สภาวะปกติคือประมาณ 65 ครั้งต่อนาที ทุกครั้งที่เริ่มหายใจเป็นปกติจะสามารถใช้ Skill พิเศษ Focus Time ด้วยการกด RB

 

จะเป็นการกลั่นลมหายใจจนเป้านิ่งและเล็งได้ง่ายขึ้นจะสามารถยิงด้วย Bullet Cams เจาะกระโหลกศัตรูได้อย่างเท่ๆและสะใจอีกด้วย เมื่อการเล้งยิงพร้อม เป้าหมายพร้อม ก็จัดการสังหาร Von Eseborg ได้เลย

 

Chapter 1: SCHONEBERG STREETS
 

 
เป้าหมายต่อมาคือ Dr. Gunther Kreid นักวิจัยด้านอาวุะเคมีของพวกนาซีที่กำลังจะเดินทางถนน Schoneberg เมื่อเข้าถึงพื้นที่แล้ว เรียนรู้การฆ่าแบบซุ่มเงียบ (Smooth Kill) ด้วยการย่องเข้าไปด้านหลังศัตรูแล้วกด A ลอบเข้าไปตามซากตึกข้างถนนจนถึงลังระเบิดมือ เก็บมาแล้วสามารถเลือกใช้ได้ด้วยการปุ่มทิศทางขึ้นลงแล้วกด RB ในการขว้าง จัดการทหารให้หมดแล้วเข้าไปจนถึงลังระเบิด Dynamite นำมาติดที่ลังระเบิดจุดแรก แล้วลอบเข้าไปตามถนนเส้นใน เป้าหมายที่ 2 ที่ต้องวางระเบิดคือรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมถนน มีทหารนายนึงเฝ้าอยู่ อีก 2 นายนั่งในร้าน ซึ่งเราสามารถใช้เทคนิคการขว้างหินเบี่ยงเบนความสนในทหารด้านในเพื่อจะลอบเข้าไปกดวางระเบิด Dynamite ที่รถบรรทถกได้โดยไม่ต้องยุ่งกับทหาร 2 นายในร้านเลย จากนั้นถอยมาที่ซากตึกที่หัวถนน เข้าไปยืนที่จุดเหมาะๆบนดาดฟ้า แล้วขบวนรถของทหารเยอรมันมันจะเริ่มเข้ามาตามถนนโดย Dr. Gunther Kreid จะนั่งอยู่ในคันสุดท้าย กะจังหวะยิงไปที่ระเบิดที่ติดอยู่ที่รถในจังหวะที่ขบวนรถกำลังจะผ่านให้พอดีก็จะทำให้ขบวนรถของพวกมันถูกระเบิดย่อยยับ เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นทหารกองหนุนจะเริ่มเข้ามาพร้อมรถถัง จัดการพวกมันให้หมดแล้วทำลายรถถังซะ

** วิธีทำลายรถถัง **

วิธีง่ายที่สุดในการทำลายรถถังนั้นคือหาที่หลบเหมาะแล้วเล็งยิงไปที่ฝาถึงน้ำมัน( จุดสีแดงๆ) ข้างๆตัวรถด้วยการยิงแบบ Focus Time นัดเดียวก็จะทำลายมันได้แล้ว โดยถังน้ำมันจุดอ่อนของรถถังแต่ละคันจะไม่เหมือนกันซึ่งบางคันอาจอยู่ข้างๆ บางคันอาจจะอยู่ด้านหน้ากันชนซึ่งต้องสังเกตให้ดีเอาเอง

 

 

เมื่อจัดการทหารศัตรูจนหมดแล้วก็เข้าไปเก็บข้อมูลจากศพ Dr. Gunther Kreid ซึ่งจะได้แผนที่โรงงานสร้างจรวด V2 และแผนร้ายที่พวกนาซีเยอรมันกำลังจะก่อขึ้น แล้วหนีออกจากพื้นที่ได้เลย
- อาวุธที่ได้รับหลังจบ Mission -

ปืน Luger LP08

ปืน MP40

ระเบิด Dynamite

** ระหว่างช่วงก่อนเข้าทำภาระกิจต่อไปจะสามารถกด RB เพื่อเข้าไปเปลี่ยนอาวุธต่างๆที่เพิ่มเข้ามาได้ด้วย **
Chapter 2: MITTEL WERK FACUTY
 

 
เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานลับมาแล้ว ก็เดินทางเข้ามายังด้านหน้าทางเข้าโรงงานลับที่อุโมงค์รถไฟใต้ดินเก่า NORD Tunnel ที่ทางเข้าจะเห็นหอสังเกตการณ์ของทหารอยู่ และเสียงประกาศออกลำโพงที่ดังมาเป็นระยะๆ ซึ่งนั่นแปลว่าเราสามารถใช้เทคนิคการยิงศัตรูในจังหวะที่มีเสียงดังของลำโพงออกมาเป็นการกลบเสียงปืนของเราไปในตัวได้ซึ่งมันจะทำให้ทหารศัตรูตัวอื่นไม่รู้ถึงการบุ***กอีกด้วย ลอบจัดการทหารให้หมดแล้วอ้อมเข้าไปที่ช่องทางด้านซ้าย ที่อุโมงค์รถไฟใต้ดินเก่า NORD Tunnel เมื่อเข้ามาแล้วเป้าหมายคือ วางระเบิดที่เครื่องกำเนิดพลังงานไอน้ำ 3 จุดในพื้นที่  ซึ่งด้านในจะค่อยข้างซับซ้อนและมีทหารศัตรูอยู่เยอะ แต่ก็มีเสียงเครื่องจักรที่ดังพอกลบเสียงปืนในการลอบสังหารได้อยู่ เมื่อวางระเบิดครบ 3 จุดแล้ว ลอบเข้าไปที่ส่วนด้านในทางซ้ายบนของแผนที่ เข้าไปจนถึง Office ห้องทำงาน เมื่อแอบฟังวิทยุจะพบว่าพวกทหารเยอรมันกำลังจะนำทหารกองหนุนมาสมทบเพิ่มที่ทางเข้าของ ***งเบอร์ลิน ในขณะนั้นเองพวกทหารเยอรมันก็เข้ามาเห็นเขาจึงสั่งทหารบุกเข้ามาโจมตีมากมาย พยายามยิงต้านเอาไว้จนระเบิดที่วางไว้เริ่มระเบิด จากนั้นก็รีบวิ่งหนีแรงระเบิดออกมาด้านนอกโรงงานลับ ที่ทางเข้าด้านหน้าทหารเยอรมัน 2 คันรถจะเข้ามาสมทบใช้ปืนกลจัดการให้หมดแล้วรีบหนีออกจากพื้นที่ทันทีพร้อมเสียงระเบิดของโรงานลับของพวกนาซีที่ถูกทำลายจนย่อยยับ
Chapter 3: KAISEREDRICH MUSEUM
 

 
หลังจา***้ถึงแผนการเคลื่อนพลของพวกเยอรมันแล้ว เป้าหมายต่อมาก็คือการลอบเข้าพื้นที่เพื่อระเบิดสะพานเชื่อมต่อกับทางเข้าออก***งเบอร์ลินเพื่อตัดกำลังพวกเยอรมันซะ เมื่อเข้าพื้นที่มาแล้วระหว่างทางที่เป็นถนนเปิดกว้างต้องระวังทั้งทหารลาดตระเวณและพลแม่นปืนบนเยอดตึกด้วย ลอบเข้าไปโดยเป้าหมายคือซากตึกทางฝั่งซ้ายบน ขึ้นไปจนถึงชั้นบนเก็บปืน Rifle Mosin Nagant มาใช้ จากนั้นย้อนกลับออกจากตึกจะพบทหารเริ่มเข้ามาเต็มพื้นที่ จัการให้หมดแล้วเข้าไปที่เสาสะพานกลางน้ำ วางระเบิด 2 จุดแล้วข้ามไปอีกฝั่ง ลอบเข้าไปในซากตึก พิพิธภัณฑ์ ลอบขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าก็จะพบจุดเหมาะในการสุ่มยิงเป้าหมายที่ระเบิดที่วางไว้ รอจนกว่าขวบนรถบรรทุกทหารเยอรมันจะผ่านข้ามสะพานแล้วจัดการยิงไปที่ระเบิดที่เสาสะพานระเบิดทำลายกองทหารเยอรมันไปพร้อมกับสะพานให้เป็นจุลได้เลย เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ทหารกองหนุนและรถถังก็จะเริ่มเปิดฉากโจมตีมาทันที เล็งยิงไปที่ฝาถึงน้ำมัน( จุดสีแดงๆ) ข้างๆตัวรถด้วยการยิงแบบ Focus Time ทำลายรถถังซะก่อน จากนั้นอย่ารอช้า รีบลุยจัดการเยอรมันที่บุกเข้ามา ออกมาจากตึก เพื่อหนีออกจากพื้นที่ทันที

- อาวุธที่ได้รับหลังจบ Mission -

ปืน Rifle Mosin Nagant

ปืน PPsh 41

Chapter 4: OPERNPLATZ
 

 
ภาระกิจนี้เป้าหมายคือการช่วยชีวิต Schwaiger นักวิจัยของเยอรมันอีกคนที่กำลังจะโดนสั่งเก็บเพราะต้องการจะรักษาความลับของแผนการทั่งหมด ภาระกิจคือเข้าช่วยเหลือ Schwaiger และเค้นข้อมูลทุกอย่างมาจากเขา ลอบเข้ามาที่กลาง***งเบอรลินที่กำลังมีสงครามอยู่ไปหมด แต่จะเป็นข้อดีเพราะทำให้เราสามารถใช้เสียงปืนใหญ่กลบเสียงปืนในการลอบสังหารเป้าหมายได้ด้วย ลุยเข้าไปตามทาง ลอบขึ้นไปบนซากตึกห้องสมุด OPERNPLATZ จนถึงชั้นบนดาดฟ้าจะพบกองทหารเยอรมันกำลังจะทำการยิงเป้า Schwaiger อยู่พอดี หาจังหวะเล็งยิงให้เหมาะสังหารนายทหารที่กำลังจะยิงหัวเขาไว้ให้ทัน แล้วยิงทหารเยอรมันรอบๆให้หมด พวกกองหนุนก็จะเริ่มออกมา ช่วยยิงคุมกัน Schwaiger เอาไว้อย่าให้เขาตายจนกว่าเขาจะวิ่งเข้ามาในซากตึก ห้องสมุด OPERNPLATZ สำเร็จ จากนั้นขึ้นด้านบนสุดจะพบกองทหารเยอรมันเข้ามาปิดล้อมมากมายที่หน้าตึก จัดการพวกมันให้หมด แล้ว Schwaiger ที่โดนยิงมาทนพิาบาดแผลไม่ไหวก่อนตายเขาได้บอกถึงแผนการของชายที่ชื่อ Wolf ที่กำลังจะมีแผนการสร้างจรวด V2 เพื่อใช้ในแผนการร้าย แต่ก่อนที่จะบอกถึงแผนการนั้น Schwaiger ก็ดันตายไปเสียก่อน



Chapter 5: ST.OLBARTUS CHURCH
 


สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือออกจากพื้นที่สงคารมในเขตนี้ให้ได้ เสียก่อน เมื่อผ่านเข้ามาถึงหน้าโบสถ์ : ST.OLBARTUS ที่นี่ถึงแม้จะมีเสียงระฆังที่ดังช่วยกลบเสียงปืนในการลอบสังหารของเรา แต่ก็จะมีกองทหารรถถังคุ้มกันอยู่ถึง 2 คันพร้อมทหารลาดตระเวณจำนวนมาก การใช้เทคนิคการยิงถังน้ำมันภายในนัดเดียวจะไม่ทำให้งานนี้ง่ายนัก เพราะเมื่อทำลายคันแรกไปแล้ว คันที่ 2 ด้านในก็จะรู้ตัวทันที พยายามซ่อนตัวทำลายรถถังให้หมดก่อนแล้วส่องเก็บทหารเยอรมันไปที่ละตัว แล้วลอบเข้าไปในซากโบสถ์ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า ลอบขึ้นไปชั้นบนสุดเก็บปืน Rifle Getwehr 43 มาใช้ แล้วจากนั้นกองทหารเยอรมันจะเริ่มเข้ามาปิดล้อมพื้นที่รอบๆโบสถ์เอาไว้ถึง 3 จุด แต่ละจุดจะมีรถถังคอยเข้ามาโจมตีผสมด้วย จุดแรกและจุดที่ 3 ถังน้ำมันของมันจะอยู่ข้างๆตามปกติ ส่วนจุดที่สอง ถังน้ำมันของมันจะอยู่ที่หน้ากันชน เมื่อถึงจุดที่ 3 แล้วจัดการทหารเบอรที่กำลังบุกเข้ามาในโบสถ์แล้วรีบลงชั้นล่างออกจากโบสถ์หนีออกจากพื้นที่ได้เลย

- อาวุธที่ได้รับหลังจบ Mission -

ปืน Getwehr 43 [G43]

Chapter 6: TIERGATEN FLAK TOWER
 
การเดินทางเข้าไปหาข้อมูลเพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายของ Wolf นั้นต้องบุกค้นที่ห้องทำงานของมัน ซึ่งต้องเข้าไปให้ถึงกลาง***งเบอร์ลิน แต่ที่หน้าเขต Front Line นั้นต้องผ่านป้อมปืนใหญ่ FLAK TOWER ที่มี นายพล Muller นายทหารระดับเสนาธิการระดับสูงของเยอรมันที่บังคับบัญชาอยู่ …เมื่อผ่านโบสถ์มาได้แล้วเข้ามาตามซากตึกที่กำลังไฟไหม้ ลอบขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ ระหว่างทางจะพบพวกนาซีและทหารเยอรมันที่เข้ากับกองทัพพัทธมิตรตั้งตนเป็นศัตรูกับผู้นำ Adolf Hitler เพื่อยึดเยอรมันคืน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายนั้นโจมตีใส่เราทั้งคู่นั่นแหละ จัดการมันให้หมด เมื่อมาถึงหน้าป้อมส่วนหน้าจะพบป้อมปืนและกองทหารรักษาการ์ณจำนวนมากที่หน้าป้อม พยายามสอยมันทีละตัวให้หมดแล้วเข้าด้านในป้อม ลุยขึ้นไปด้านบนสุดจะพบจุดเหมาะที่จะส่องลอบสังหาร  นายพล Muller ที่อยู่บนป้อมปืนใหญ่ FLAK TOWER ตรงกันข้ามได้ พยายามเล็งยิงสังหารมันซะอย่าให้พลาด แล้วกองทหารมากมายจะเข้ามาล้อมโจมตี ลุยฝ่าวงล้อมออกมาจากป้อมแล้วหนีออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด


 
Chapter 7: KARLSHORST COMAND POST
 


เมื่อลอบเข้ามาถึงกลางกรงเบอร์ลินได้สำเร็จ เป้าหมายคือห้องทำงานที่ฐานบัญชาการ์ณปฏิบัติการ์ณพิเศษ Special operation Command ของ Wolf ที่กลางเมือง ลอบเข้ามาตามซากตึกของถนนจนถึงตึกฐานบัญชาการ์ณจะมีพบว่ามีรถถังและกองทหารคุ้มกันมากมาย พยายามทำลายรถถังก่อนแล้วนอนสุ่มยิงจากฝั่งตรงข้ามจัดการทหารด้านหน้าตึกให้หมด แล้วทหารด้านในจะเปิดประตูออกมา จัดการให้หมดแล้วลุยเข้าไปด้านในจัดการหัวหน้าทหารแล้วจะพบ กระดาษข้อมูลแผนการของ Wolf ที่กำลังผลิตจรวด V2 อาวุธเคมีร้ายแรงโดยมีเป้าหมายที่ ลอนดอน จากนั้นย้อนกลับออกมาจะมีมือปืน Sniper ออกมาสุ่มยิงมากมาย จัดการให้หมด แล้วจะหนีออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ

Chapter 8: KREUZBERG HQ
 
 

ไม่ไกลจาก***งเบอร์ลิน เป้าหมายในครั้งนี้คือลอบเข้ามาห้องหลักฐานข้อมูลในห้องทำงานของ Wolf ในฐานใหญ่ของเยอรมัน เข้ามายังท่าเรือจะพบฝ่ายทหารเยอรมันและ โซเวียต  กับพวกนาซีกำลังทำสงครามกันอย่างดุเดือด นั่นแปลว่าเรากไลังซวยเพราะได้เข้ามาตรงกลางวงล้อมของทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นศัตรูกับเราทั้งคู่ พยายามจัดการศัตรูที่หน้าตึกให้หมด แล้วเข้าไปทะลุออกมายังส่วนของตึกบัญชาการ์ณด้านใน ที่นี่มีทหารนาซีมากมายคุ้มกันอยู่ แต่ก็จะมีเสียงปืนใหญ่ช่วยให้สามารถกลบเสียงปืนของเราได้ด้วย ลอบจัดการพวกทหารนาซีให้หมดแล้วเข้าไปในตึก ในห้องทำงานของ Wolf จะพบสมุดบันทึกที่มีรอยที่ Wolf มันเขียนที่อยู่ของทีประชุมวางแผนลับของพวกมัน จากนั้นออกจากตึกนี้ มุ่งหน้าไปทีตึกใกล้ๆ จัดการกองทหารที่เข้ามาปิดล้อมให้หมดแล้วปีนซากตึกเข้าไปในห้องด้านในรีบเข้าไปก่อนที่กระดาษที่เขียนแผนการร้ายกำลังจะถูกเผาทำลาย ก็จะพบว่าฐานยิงจรวดทั้ง 3 แห่งโดนฝ่ายพัทธมิตรทำลายไปหมดแล้วซึ่งจะเหลืออีกที่เดียวคือที่ Kopenick เท่านั้น และนั้นน่าจะเป็นฐานยิงจรวดแหล่งสุดท้ายของ Wolf นั่นเอง

Chapter 9: KOPENICK LAUNCH SITE

 

เพื่อหยุดยั้งแผนร้ายของ Wolf จึงต้องรีบมาที่ฐานยิงจรวดที่ Kopenick ที่หน้าทางเข้าจะเต็มไปด้วยทหารนาซีในบังเกอร์ และป้อมปืนที่มองได้จากระยะไกลอีก แต่ยังมีเสียงปืนใหญ่ที่ช่วยอำพรางเสียงปืนในการลอบยิงของเราได้ เก็บที่ละตัวให้หมดแล้ว มุดเข้าไปตามบังเกอร์ ลอบเข้าไปด้านในจนถึงค่ายทหารที่เป็นฐานยิงจรวด ลอบเข้าไปยังอาคารฝั่งตรงข้ามกับแท่นยิงจรวด ซึ่งถ้าสามารถลอบเข้ามาได้โดย ไม่มีการยิงต่อสู้เลยก็สามารถเล้งยิงไปที่จุดแดงที่เป็นถังเชื้อเพลิงของจรวด V2 ได้เลย

 

แต่ถ้ามีการยิงต่อสู้ขึ้น จรวดจะเริ่มทำการปล่อยตัวทันทีต้องรีบจัดการทหารนาซีแล้วยิงจรวดให้ทันก่อนมันจะถูกปล่อยออกไป เมื่อทำลาย V2 Rocket จรวดไวรัสของพวก นาซี ได้แล้ว ต่อไปก็ไปตามเก็บบัญชีกับ Wolf เจ้าของแผนการร้ายได้แล้ว
Chapter 10: BRANDENBURG GATE
 

 
เป้าหมายสุดท้าย ตามเก็บ Wolf ตัวการร้ายที่กำลังหนีเข้าไปที่ Moscow เพื่อไปเอาไพล์ข้อมูล Rocket Program เพื่อใช้ทำแผนชั่วร้ายของมันต่อ ลอบเข้าไปตามซากเมืองจนถึงทางเข้าโรงแรมทะลุออกมาจากถึงจัตุรัส BRANDENBURG ที่มีทหารนาซีมากมายและรถถังรักษาการ์ณอยู่ ใช้เสียงปืนใหญ่ให้เป็นประโยชน์ สุ่มยิ่งอย่าให้พวกมันรู้ที่ละคนให้หมดแล้วค่อยทำลายรถถัง เมื่อจัดการหมดแล้วปีนขึ้นไปบนหลังคาแท่นเสาประตู BRANDENBURG จะพบ Wolf กำลังนั่งรถหนี เล็งให้ดีๆเหมาะๆแล้วส่องหัวมันได้เลย เมื่อจัดการ Wolf ลงได้แล้ว แผนการร้ายที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้นำจอมวายร้าย Adolf Hitler ก็ต้องจบลง

 

30 เมษายน1945 - Adolf Hitler ผู้นำพรรคนาซีได้ทำการอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับ***มโดยกองทัพโซเวียต พบสภาพศพของเขาถูกเผาอยู่ในหลุมที่ฝังศพของเขา ซึ่งส่งผลให้เราทั้งหลายชวดโอกาสในการสังหารผู้นำโฉดคนนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

 

2 พฤษภาคม 1945 -  Karl Fairburne เสร็จสิ้นภาระกิจและนำพาเหล่านักวิทยาศาสตร์ฝีมือดีของนาซีกลับสหรัฐได้จำนวนหนึ่ง พร้อม Rocket Program

8 สิงหาคม ค.ศ. 1945 - สงครามในยุโรปยุติลงหลังกองทัพแดงยึด***งเบอร์ลินได้ และการยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขของเยอรม เนื่องจากถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวและตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบอย่างยิ่ง

………สงครามยุติลงด้วยชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตร ผลของสงครามได้เปลี่ยนแปลงการวางแนวทางการเมืองและโครงสร้างสังคมของโลก สหประชาชาติถูกสถาปนาขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและเพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต สหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตก้าวเป็นอภิมหาอำนาจของโลกอันเป็นคู่ปรปักษ์กัน นำไปสู่ความขัดแย้งบนเวทีแห่งสงครามเย็น ซึ่งได้ดำเนินต่อมาอีก 46 ปีหลังสงคราม ……………

เยอรมันทำ "สงคราม" เพราะความฝันของฮิตเลอร์

ญี่ปุ่นทำ "สงคราม" เพราะความฝันของจักรพรรดิ

ความฝันของคนไม่กี่คน ทำให้โลกเอ่อล้นด้วยน้ำตา แต่สุดท้ายตัวร้ายก็ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่ร่ำไปน๊ะ จะบอกให้

**************************************************************************************************

อยากส่องหัว Hitler กันมั๊ย… เมื่อ ของขวัญพิเศษที่ทาง 505 Games จัดไว้ให้คือภารกิจลับสุดพิเศษในชื่อ  Kill the F?hrer ที่เป็นโบนัสพิเศษให้สำหรับผู้ที่สั่งจองเกมล่วงหน้าเท่านั้น โดยให้คุณได้มีโอกาสส่องหัวผู้นำเผด็จการนาซีเยอรมัน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์  ซึ่งในภารกิจดังกล่าวนั้นผู้เล่นจะได้รับโอกาสในการส่องสังหารฮิตเลอร์ในระหว่างที่เขากำลังเดินทางด้วยรถไฟส่วนตัวกลับจากเมืองแบร์กเทสการ์เดน (Berchtesgaden) มายัง***งเบอร์ลิน หน้าที่ของผู้เล่นคือต้องขัดขวางขบวนรถไฟไม่ให้ออกจากสถานีและซุ่มจัดการสอยจอมเผด็จการในขณะที่เขากำลังเดินวนเวียนอยู่ในสถานีภายหลังออกจากรถไฟมาแล้วด้วยปืนสไนเปอร์สุดเอ็กคลูซีฟ Soviet SVT-40  และ German Kar 98 โดยผู้เล่นมีโอกาสเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ในการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ในครั้งนี้


ลิ้งอ้างอิง
http://discchannel.com/?mod=vi-post&cid=66&id=727

เกมส์Call of duty

http://www.youtube.com/watch?v=bZb92zh81FE ลิ้งค์อ้างอิง

เนื้อเรื่องจริงๆนะครับ (อาจเสียอรรถสในการเล่นเกม)

          17 สิงหาคม 2016 - (Prologue) ที่ Site Hotel Bravo ใน Afghanistan หลังจากที่ Captain John Price เเละ Captain Jonh "Soap" MacTavish ได้จัดการกับ Gen.Shepherd ในหน่วย Shadow Company แล้ว (ทหารอเมริกัน ผู้สมคบคิดบันลือโลกกับ Makarov ผู้ก่อการร้าย และหัวหน้าฝ่าย Ultranationalist  สร้างสงครามรบฆ่ากันเอง ระหว่างอเมริกา กับ รัสเซีย) Soap ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดมาก เเต่โชคดีที่ Nikolai ซึ่งเป็นสายลับของ Captain Price ได้นำ Little Bird มารับ เเละพา Price เเละ Soap ไปที่เซฟเฮ้าส์ ซึ่งอยู่ใกล้เทือกเขาหิมาลัย ทางตอนเหนือของอินเดีย 
          17 สิงหาคม 2016 - (Black Tuesday) ตัดมาที่อเมริกา กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ (Code Name : Overload) เข้าระบบดาวเทียม ตรวจสถานการณ์ ในเกาะเเมนเเฮตตัน นิวยอร์ก พบว่า รัสเซียได้ทำการติดตั้งหอคอยรบกวนสัญญาณที่ดาดฟ้าของอาคารตลาดหลักทัรพย์ ทำให้การติดต่อขาดหายไปเเละเครื่องบินทิ้งระเบิด ไม่สามารถกำหนดเป้าหมายที่เเน่นนอนได้ โอกาสที่จะเสียเมืองนี้มีสูงมาก ทาง Overload จึงส่งหน่วยรบพิเศษคือ Delta Force ทีม Metal นำโดย Sandman (Metal 0-1) Truck (Metal 0-2) Grinch (Metal 0-3) เเละ Frost (Metal 0-4) ไปทำลายหอคอยตรงนั้น เพื่อชิงความได้เปรียบของสงครามคืนมา
          17 สิงหาคม 2016 - (Hunter Killer) - เมื่อหน่วย Delta Force ได้ทำลายหอคอยรบกวนสัญญาณเเล้ว ทำให้เครื่องบินทิ้งนะเบิดของสหรัฐ สามารถทิ้งระเบิดตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ จนกองทัพรัสเซียถอยร่นมาใกล้ริมเเม่น้ำฮัตสันใกล้ อ่าวนิวยอร์ก เเละหน่วย Delta Force ได้รับภารกิจใหม่คือ ติดต่อหน่วย Seal เเละ บุกยึดเรือดำน้ำ Oscar-2 ของรัสเซีย ก่อนที่รัสเซียจะทำการโจมตีโต้ตอบไป โดยจะต้องยืดเรือดำน้ำเเละยิงจรวดใส่เรือรบของรัสเซียให้หมด เเละ Delta Force ก็ทำสำเร็จอย่างง่ายดาย 
          17 สิงหาคม 2016 - (Persona Non Grata)  อเมริกาสามารถขับไล่กองทัพรัสเซียได้สำเร็จ เเละก็ตัดกลับมาที่ Task Force 141 ซึ่งตอนนี้กลายเป็นองค์กรที่ไม่ได้รับการยอมรับเพราะถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย (Shepherd เป็นคนประกาศ) ในขณะที่หมอทำการเย็บเเผล Soap อยู่นั้น กองกำลังของ Makarov ก็บุกมาโจมตีเมืองนี้ เพื่อตามสังหาร Price เเละ Soap ทิ้งซะ ทาง Price จึงต้องหาคนที่จะช่วย Nikolai จึงเสนอคนหนึ่งชื่อว่า Yuri ซึ่งอดีคเคยเป็นหน่วย Spetsnaz มาก่อน 
เพื่อที่จะพา Soap ออกจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด
          3 ตุลาคม 2016 - Turbulence ตัดมาที่หน่วยอารักขาประธานาธิปดีของรัสเซีย - Sandman คุยกับใครคนหนึ่งใน Messenge เเละเพิ่งรู้ว่า คนที่คุยด้วยคือ Captain Price ซึ่งมีการรายงานว่าเขาตายเเล้ว Price จึงบอกว่า Makarov จะยังคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ ขณะเดียวกัน รัสเซียและอเมริกา จะทำการเจรจาสงบศึกสงครามที่Hamburg Germany โดยการพบกันระหว่างรองประธานาธิปดีเเห่งสหรัฐเเละประธานาธิปดีเเห่งรัสเซีย Boris Vorshevsky ซึ่งเขากำลังเดินทางโดยเครื่องบินพร้อมกันลูกสาว Alena  Vorshevsky ท่ามกลางการคุ้มกันของหน่วยอารักขาเป็นจำนวนมาก เเต่พวก Makarov รู้ตัว จึงทำการปล้นเครื่องบิน จนทำให้เครืองบินตก ซึ่ง Alena  Vorshevsky เเละหน่วยอารักขาส่วนหนึ่งหนีไปได้ เเต่ Boris Vorshevsky ถูก Makarov จับตัวไป เเละทำการสังหารหน่วยอารักขาจนหมดสิ้น สิ่งที่ Makarov ต้องการคือ เปิดฉากสงครามในยุโรป และ รหัสปลดล็อกจรวดนิวเคลียร์เพื่อไปยิงโจมตีใส่อเมริกา
         5 ตุลาคม 2016 - Back on the Grid ข่าวรายงานว่าประธานาธิปดีรัสเซียหายตัวไป ไม่มาเจรจายุติสงครามร่วมกันกับอเมริกา กลับมาที่หน่วย Task Force 141 - Price Soap เเละ Yuri ไปที่ประเทศ Sierra Leone เพื่อไปตรวจสินค้าน่าสงสัยของ makarov  ที่ทำโดยบริษัท Fregata โดยสินค้านั้นจะไปส่งใน โมร็อคโค สเปน เเละ สหราชอาณาจักร ท่ามกลางการคุ้มกันของกองกำลังกบฎนิยมหัวรุนเเรงง เเต่พอไปถึงที่นั้น  พวก Fregata ก็ไปส่งสินค้าซะเเล้ว
          6 ตุลาคม 2016 - Mind the Gap กลับมาที่ SAS ของสหราชอาณาจักร - MI6 ได้รับข้อความจาก นายสถานี Corsica Station ซึ่งเป็นสายให้กับ MI6 โดยเป็นเสียงตอนหนึ่ง เเต่เป็นใจความสำคัญ คือ มีสินค้าที่ชื่อว่า Fregata (ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องเฝ้าระวังของรัฐบาลสหราชอาณาจักร) นั้นจะไปส่งที่ London  ตามทางรถไฟระหว่างประเทศ ถึงสถานี Westminister (คืออาคารรัฐสภาทาง MI6 จึงไปเเจ้งยัง SAS ผ่าน MI5 ให้ SAS ซึ่งนำโดย  Wallcroft Griffin เเละ Burns ไปตรวจสอบดูว่าสินค้านั้นเป็นอะไร (SAS สามารถเป็นสายลับได้) ซึึ่ง SAS สามารถหยุดรถทุกคันได้  เเต่มีอีกจุด มีรถคันหนึ่งที่ขนสินค้าของ Fregata  วิ่งเเฝงเข้ามา เเละเด็กผู้หญิงก็อยู่ใกล้รถคันนั้น ทันใดนั้น รถขนสินค้า Fragata คันนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นเเละสีเขียวที่ออกมาคือ เเก๊สเคมี เเละเกิดขึ้นเเบบนี้ทั่วยุโรป  เเม้เเต่ที่ Satori ที่เป็นที่ทำการของหน่วย GIGN ของฝรั้งเศส
         6 ตุลาคม 2016 - Goalpost ข่าวรายงายว่า อาวุธเคมีได้เเฟร่กระจายเป็นวงกว้าง เเละหลายจุดทั่วยุโรป เป็นการก่อการร้ายที่รุนเเรงที่สุดและเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก - ตัดกลับมาที่ Delta Force - ฐานทัพอากาศสหรัฐ Ramstein ที่ตั้งอยู่ใน Hamburg ซึ่งเป็นที่การประชุมผู้นำสหรัฐเเละรัสเซีย ได้ถูกกองทัพรัสเซียโจมตีอย่างหนัก มิหนำซ้ำรัสเซียยังไปบุกโจมตีประเทศอื่นที่อยู่ใในเเถบยุโรปอีกด้วย ลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 - Delta Force ได้คำสั่งให้ไปช่วย รองประธานาธิปดีสหรัฐ (Code Name : Goalpost) ที่ตกอยู่ในอันตราย โดยมีกำลังเสริมอย่าง 75th U.S.Army  Ranger ไปช่วยในการทำภารกิจครั้งนี้ และก็สามารถช่วย รองประธานาธิปดีสหรัฐ ได้สำเร็จอย่างทุลักทุเล
          8 ตุลาคม 2016 Return To Sender - ตัดกลับมาที่ Task Force 141 Price ได้โทรไปหา Captain MacMilan ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ควบคุมกองทัพทั้งหมด เพื่อสืบหาเบาะเส ของ Makarov พบว่าเเต่ MacMilan ไม่เต็มใจซะเท่าไร Price โมโหจึงย้อนอดีตภารกิจที่ทำร่วมกันใน Pripyat ใน Ukraine (ภารกิจลอบสังหาร  Imran Zakhaev อดีตหัวหน้า Ultranationlist ใน Modern Warfare ซึ่ง MacMilan เป็นหนี้ชีวิตกับ Price)  MacMilan จึงเต็มใจบอกว่า เส้นทางที่ส่งอาวุธเคมี ส่งผ่านท่าเรือ Bosaso ใน Somalia โดยการควบคุมโดย Waraabe , Price จึงกำลังไป เเละสวบสวน Waraabe บอกว่ารู้จัก คนที่ชื่อ Volk ที่เป็นคนกำหนดจุดวางระเบิด ซึ่งกบดานอยูาใน Paris พอพวก TF141 ได้ข้อมูล Price ทำการยิงหัว Waraabe ตายคาเเก๊สพิษภายในห้อง พอพวก TF141 จะออกจากที่นี่ พวก Waraabe ก็บุกโจมตี ทำให้ TF141 ต้องไปนัดจุดรับใหม่ เเต่ เครื่องบินที่ Nilolai ขับมานั้น ถูกยิงตก Price Soap Yuri จึงไปช่วย Nikolai ท่ามกลางพายุทรายที่บุกถล่มหมู่บ้านอย่างหนัก แล้วก็สามารถช่วยและหนีออกไปได้อย่างทุลักทุเล 
          9 ตุลาคม 2016 Bag and Drag - ตัดกลับมาที่ Delta Force - Price ได้ติดต่อกับ Sandman ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษเฉพาะกิจ 141 เหมือนกัน ว่า มือระเบิดเคมีนั้น มีชื่อว่า Volk ซึ่งกบดานอย่างใน Paris , France  จึงทำให้ Overload มอบภารกิจให้กับ Delta Force คือ จับตัว Volk เป็นๆ เเละออกจากที่นี่ให้ได้ ท่ามกลางสงครมเเละเเก๊สพิษที่พุ้งกระจายโดยรอบในเมืองนี้ อาศัยการนัดพบกับหน่วยพิเศษของฝรั้งเศส GIGN ชื่อ Sabre โดย Sabre รู้เเหล่งกบดานของ Volk ที่อยู่ท่อใต้ดินของเมืองนี้  และจับ Volk ตัวเป็นๆ ได้สำเร็จ
          9 ตุลาคม 2016 Iron Lady - ประธานาธิปดี Aide ของสหรัฐ ได้ติดต่อกับ Overload ถามถึงการไล่ลาของ Makarov เเต่พบว่าสถานการณ์เปลื่ยนไปคือ หน่วย Delta Force สามารถจับมือระเบิดได้ ทาง ประธานาธิปดี Aide จึงขอร้องให้ได้ตัว Volk มาเป็นๆ ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม วิธีทำก็คืออาศัยการสนับสนุนเครื่องบินโจมตี AC-130 เเละการโจมตีทางอากาศอื่นเพื่อใ้ห้หน่วย Delta Force นั้นสามารถพาตัว Volk กลับมาได้อย่างปลอดภัย เเละก็ทุลักทุเลอีกตามเคย
          10 ตุลาคม 2016 Eye of the Storm กลับมาที่ TF141 Sandman ให้ข่าวกับ Price ว่า Makarov จะไปประชุมปรึกษาหารือกันที่ โรงเเรม Lustig .ใกล้กับจตุรัสเก่า ใจกลางของ Prague Czech Republic (เป็นประเทศที่ถูกรัสเซียโจมตีเยอะมาก) ใน 6 ชั่วโมง เเต่ Delta Force ไม่สามารถส่งมือสังหารมาๆได้ จึงต้องเป็น TF141 Price สั่งให้ Soap เเละ Yuri เป็นมือสังหาร โดยจะนัดหมายกับกองกำลังต่อต้านในเช็ก ที่นำโดย Sergeant Kamarov ซึ่งเป็นทหารรัสเซีย  โดยไปยังจุดทำการสังหาร ท่ามกลางกำลังของรัสเซียเเละ Makarov ที่เเน่นหนามาก
          11 ตุลาคม 2016 (Blood Brothers) Makarov ได้มาประชุมสายกว่าปกติ เเต่เเผนการลอบสังหาร Makarov ก็ดำเนินต่อไป เเต่ทันใดนั้นก็พบว่าที่นี่เป็นกับดัก เพราะ Makarov สามารถ จับตัว Kamarov  และผูกติดกับระเบิดไว้ เเละใช้วิทยุของ Kamarov ดักฟังเอง  จึงทำให้ Price Yuri เเละ Soap ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเเรงระเบิด  ต้องออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด พอไปถึงที่ซ่อน Soap ที่เสียเลือดมาก จึงสั่งเสียกับ Price ว่า Makarov รู้จัก Yuri เเละสิ้นลมไป Price รู้เช่นนี้ ด้วยความโมโห จึงไปถาม Yuri ว่า Makarov รู้จัก Yuri ได้ยังไง  Yuri ได้เล่า
ว่า ตอนสมัยหนุ่ม ได้เป็น มือขวาของ Makarov ตั้งเเต่ Imran Zakhaev  เป็นหัวหน้่า Ultranationalist ตั้งเเต่เหตุการณ์ใน Pripyat ในปี 1996, Makarov สั่ง ลูกน้องของ Al-Asad จุดระเบิดนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง ทำให้นาวิกโยธินสหรัฐตายเเละสูญหายไปกว่า 30,000 คน ในปี 2011 , ถูก Makarov หักหลังและฆ่าเขา ก่อนที่ Makarov จะทำการอำมหิตด้วยการกราดยิงผู้บริสุทธิ์ในสนามบินนานาชาติ Zakhaev กรุง Moscow ปี 2016 เเต่โชคดี Yuri ไม่ตาย เจ้าหนา้ที่พยาบาลพบเข้า จึงให้ให้เค้าปลอดภัย เเละตั้งเเต่นั้นมา Yuri ก็เกลียด Makarov และรอวันล้างเเค้นมาตลอด    Price ถึงเข้าใจ
           12 ตุลาคม 2016 (Stronghold) หลังจากที่ Soap ตายเเ้้ล้ว Price ได้ขอความช่วยเหลือกับ MacMilan เกี่ยวกับรายละเอียดกองบัญชาการของ Makarov ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับที่ประชุมใน Prague  ซึ่งการเข้าโดยปลอดภัยนั้นจะต้องโดดร่มเข้ามาเท่านั้น โดย Price หวังว่าถ้าจะเจอ Makarov ก็จะฆ่าโดยทันที พอไปถึง Makarov ไม่ได้อยู่ที่นี่ และ พอไปถึงก็พบว่า Makarov รู้ที่อยู่ของลูกสาวประธานาธิปดีรัสเซีย (Alena Vorshevsky) และ โดยเธออยู่ที่ Berlin ใน Germany , Makarov จึงสังการให้ไปตามล่าจับตัวเธอให้ได้  Price จึงสั่งให้ Nikolai ติดต่อกับ America ให้ไปช่วยเธอด่วน
          13 ตุลาคม 2016 (Scorched Earth) - ตัดกลับมาที่ America ได้ข้อมูลจาก Nikolai มาว่า ลูกสาวประธานาธิปดีรัสเซีย (Alena Vorshevsky) กบดานอยู่ที่ Berlin ใน Germany , Delta Force ได้คำสั่งให้ไปสนับสนุนทีม Granite ที่จะทำการช่วยลูกสาวประธานาธิปดีรัสเซีย เเต่ทีม Granite พลาดท่าโดนระเบิดตายเรียบ  Delta Force และ Ranger ก็เสียคนไปเยอะมาก เเถมการทำภารกิจ ก็เป็นไปด้วยความลำบากมากๆ เพราะรัสเซียโจมตีด้วยจรวดทำให้ทีม Metal หนีตายอย่างชุลวุน เเต่ก็สามารถมาถึงห้อง ที่ Alena อยู่ เเต่ไม่สามารถมาช่วยได้ทัน พวก Makarov มาถึงก่อน เเละจับตัวเธอไปซะเเล้ว
           14 ตุลาคม 2016 - Down the Rabbit Hole - พวก Makarov จับตัว Alena ไปที่เหมืองเเร่เเห่งหนึ่ง ทางตะวันออกของ Sibiria  โดยภารกิจคือช่วยทั้งสองคน คือประธานาธิปดีเเละลูกสาว ภายใต้การสนธิกำลังของ Task Force 141 เเละ Delta Force ซึ่งก็สามารถช่วยได้ทั้งสองคน เเต่ก็เสีย Sandman Truck และ Grinch ไปพร้อมๆ กับ เหมืองเเร่ที่กำลังถล่มลงมา
หลังจากนั้น ชาวรัสเซียประมาน 1000 คนได้ต้อนรับการกลับมาของประธานาธิปดีที่ กรุง Moscow  และการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายคือ U.S.A. เเละ F.R.S. ได้เริ่มต้นขึ่นที่ทำเนียบขาว และสามารถยุติสงครามครั้งที่ 3  ลงได้ เเต่ Makarov  ยังคงมีกองกำลังเเละอิทธิพลอยู่

           21 ตุลาคม 2017 - Dust to Dust - กลับมาที่ Task Force 141 ได้เวลาล้างเเค้น โดยที่กบดานของ Makarov นั้นอยู่ที่ โรงเเรม Oasis ที่ Dubai , U.A.E. ซึ่ง Price สามารถฆ่า Makarov ได้ เเต่ก็เสีย Yuri ที่ถูกยิงกลางสมองไป และเเล้วก็จบ

ลิ้งอ้างอิง

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=373df6fa138737af