วัตถุประสงค์
- ผู้จัดได้จัดทำขึ้นเพื่อนศึกษา หรือตอบสนองความชอบส่วนบุคคลเท่านั้นถ้าผู้ใดสนใจสามารถเข้ามาร่วมในการจัดทำได้

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556


อินุยาฉะ


ขอบคุณที่มา http://www.youtube.com/watch?v=UxIH-TyuDZY
อินุยาฉะ เป็นลูกครึ่งอสูรซึ่งเกิดจากพ่อผู้เป็นจอมปีศาจจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ แต่มีแม่เป็นมนุษย์ จึงทำให้อินุยาฉะมีปมด้อยและไม่เป็นที่ยอมรับทั้งจากบรรดาปีศาจหรือมนุษย์ธรรมดา จากการไม่เป็นที่ยอมรับนั้นเองที่เป็นเหตุผลให้เขาต้องการลูกแก้วสี่วิญญาณ(ลุกแก้วอสูร)เพื่อที่จะกลายเป็นอสูรอย่างเต็มตัว แต่การที่จะได้ลูกแก้วมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะลูกแก้วดังกล่าวได้รับการพิทักษ์จาก คิเคียว ผู้เป็นมิโกะศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน ดังนั้นเขาและคิเคียวจึงมีเหตุให้ต้องประฝีมือกันอยู่เนืองๆ แต่ว่าอินุยาฉะก็ทำร้ายคิเคียวไม่ลงดังเช่นที่คิเคียวก็ไม่ยอมทำร้ายอินุยาฉะเช่นเดียวกันเนื่องจากคนทั้งคู่ต่างก็มีใจให้กัน
ต่อมาคิเคียวและอินุยาฉะได้คุยกันถึงการตัดสินใจมอบลูกแก้วให้อินุยาฉะได้อธิษฐานให้ตนเองกลายเป็นมนุษย์เต็มตัวเพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างคนธรรมดา แต่เหตุการณ์ได้กลับตาลปัตรในรุ่งอรุณของวันที่คิเคียวต้องส่งมอบลูกแก้วสี่วิญญาณให้กับชายคนรัก เพราะโจรป่าโอนิคุโมะ ผู้รวมร่างกับปีศาจจนกลายเป็น นาราคุ (นาราคุ แปลว่า นรก) มีความต้องการในตัวคิเคียวจึงทำให้ทั้งคู่ผิดใจกันด้วยการปลอมตัวเป็นคนทั้งสองให้ต่างฝ่ายต่างลอบทำร้ายซึ่งกันและกัน ในที่สุดอินุยาฉะก็พลาดท่าถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกให้หลับใหลอยู่ข้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตัวเธอเองพร้อมกับรอยบาดแผลที่สาหัส ได้สั่งเสียก่อนตายกับ คาเอเดะ ผู้เป็นน้องสาวของเธอว่าให้เผาลูกแก้วสี่วิญญาณไปพร้อมกับร่างกายของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกแก้วตกไปอยู่ในมือของปิศาจอีกต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลาได้ล่วงเลยมา500ปีจนถึงยุคปัจจุบัน คาโงเมะ สาวน้อยวัยมัธยมต้นไม่เคยรู้มาก่อนว่าวิญญาณของคิเคียวได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างของเธอ จนกระทั่งในวันที่เธอมีอายุครบ 15 ปี คาโกเมะได้ถูกปิศาจตะขาบลากไปในยุคแห่งสงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจ (ยุคของอินุยาฉะ) ทางบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่าบ่อกลืนกระดูก ในระหว่างการหลบหนีปีศาจตัวดังกล่าวนี้เองทำให้คาโกเมะได้พบกับอินุยาฉะและได้ปลุกเขาให้ตื่นจากการหลับใหลนานถึง 50 ปี อีกทั้งได้ค้นพบว่าในร่างกายของตัวเธอเองนั้นมีลูกแก้วสี่วิญญาณที่สมควรจะหายไปตั้งแต่ถูกเผาไปพร้อมกับร่างกายของคิเคียวในเวลาหลายร้อยปีก่อนหน้านี้
เรื่องราวแห่งโชคชะตาดูจะไม่จบอยู่แค่นั้นเพราะหลังจากที่ข้ามผ่านเวลามาในโลกแห่งอดีตได้ไม่นานนัก ลูกแก้วสี่วิญญาณก็ได้แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนของลูกแก้วนั้นกระจัดกระจายไปไกลเป็นสิบหรือร้อยชิ้นก็สุดจะคาดเดา คาโกเมะและอินุยาฉะจึงจำต้องจับคู่กันเพื่อตามหาเศษลูกแก้วให้กลับมารวมกันให้ได้ก่อนที่คนชั่วและปีศาจร้ายจะได้มันไว้ในครอบครอง และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นให้ศึกชิงลูกแก้วสี่วิญญาณได้เปิดฉากขึ้น
และการเดินทางที่ยาวนานเสี่ยงอันตรายที่มาพร้อมกับการต่อสู้อันดุเดือดเพื่อรวบรวมเศษลูกแก้วที่กลายเป็นการเดินทางไปปราบนาราคุโดยปริยายนั้นเองที่ได้ก่อร่างสร้างเรื่องราวแห่งมิตรภาพ ความรัก และการค้นพบตัวเองของลูกครึ่งปีศาจผู้นี้ อินุยาฉะได้ต่อสู้กับ เส็ตโซมารุ พี่ชายต่างมารดาที่เป็นอสูรเต็มตัว เพื่อแย่งชิง ดาบเขี้ยวอสูร ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากเขี้ยวของท่านพ่อ ต่อมาอินุยาฉะได้ครอบครองดาบเล่มนี้และใช้ดาบเขี้ยวอสูรเป็นอาวุธคู่กายเพื่อช่วยในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อีกทั้งในการผจญภัยครั้งนี้อินุยาฉะได้ร่วมทางไปกับมิตรแท้อย่าง ชิปโป ลูกของปิศาจจิ้งจอกซึ่งพ่อถูกฆ่าตายโดยปีศาจอสูรสายฟ้า, มิโรคุ นักบวชทุศีลจอมลามกที่มีช่องว่างแห่งลมที่มือขวา, และ ซังโกะ ลูกหัวหน้าหมู่บ้านนักปราบปิศาจ ที่มากับคิราร่า ปีศาจแมวสองหางที่เป็นพาหนะคู่ใจ (ปีศาจแมวตัวนี้เคยเป็นแมวคู่ใจของมิโดริโกะมาก่อน) จนกระทั่งได้จัดการกับนาราคุ และร่างแบ่งภาคของนาราคุที่ฝากความแค้นให้กับทุกคนได้ในที่สุด นอกจากนี้แล้วอินุยาฉะยังต้องพบเจอกับเรื่องราวของความรักความผูกพันระหว่างเขากับคาโกเมะที่แทรกเข้ามาในการเดินทางครั้งนี้อีกด้วย

ตัวละคร[แก้]

อินุยาฉะ (Inuyasha)
เด็กหนุ่มลูกครึ่งปีศาจผู้มีเลือดผสมจากจอมปิศาจจิ้งจอกเงินและมารดาผู้เป็นเจ้าหญิงชาวมนุษย์ชื่ออิซาโยอิ เกิดในคืนจันทรุปราคา เป็นคนปากไว มุทะลุ เกลียดการพ่ายแพ้ ขี้เก๊ก โลเล แถมยังไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ว่ามีจิตใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แรกเริ่มอินุยาฉะต้องการลูกแก้วสี่วิญญาณเพื่อจะเป็นปิศาจที่สมบูรณ์ดังเช่นครึ่งอสูรคนอื่นๆ และชอบพออยู่กับคิเคียว มิโกะผู้รักษาลูกแก้ว ต่อมาถูกนาราคุทำให้ผิดใจกันจนถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกให้หลับใหลอยู่ข้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นานถึง 50 ปี ต่อมาเขาได้พบกับ คาโกเมะ สาวน้อยผู้เป็นร่างใหม่ของคิเคียวในชาติที่แล้วมาปลดผนึกให้ ทั้งคู่จึงตกลงใจมาร่วมกันรวบรวมเศษลูกแก้วและต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจอย่างนาราคุ อินุยาฉะมีดาบเขี้ยวอสูรซึ่งตีมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกาย ใช้เพื่อปกป้องตนเองและผนึกสัณชาตญาณปีศาจซึ่งจะตื่นขึ้นมาในเวลาที่เกิดอันตรายถึงชีวิต โดยมีท่าไม้ตายคือ แผลแห่งลม และ พลังไหลระเบิด (บทพากย์ฉบับโมเดิร์นไนน์การ์ตูนใช้ชื่อว่า พลังคลื่นระเบิด) ที่จะจบชีวิตศัตรูได้ในการจู่โจมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าอินุยาฉะจะไม่มีพลังปิศาจและกลายเป็นมนุษย์ในคืนที่พระจันทร์หายลับไปจากท้องฟ้า จุดอ่อนคือ เดือนดับ อาหารรสจัด กลิ่นเหม็น น้ำตาผู้หญิง และคำว่า "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ของคาโงเมะ อินุยาฉะสูง167เซนติเมตร หนัก65.1กิโลกรัม
ฮิคุราชิ คาโงเมะ (Kagome) 
สาวมัธยมต้นธรรมดาๆอาศัยอยู่ในศาลเจ้าฮิงุราชิกับ ปู่ แม่ และน้องชาย แต่ในวันเกิดครบรอบ 15 ปี เธอถูกปีศาจตะขาบพามาที่ยุคสงครามเมื่อ 500 ปีก่อนเพื่อที่จะพบกับอินุยาฉะที่ถูกคิเคียวผนึกไว้ คาโกเมะผู้ซึ่งเป็นวิญญาณของคิเคียวกลับชาติมาเกิดได้ไปปลดผนึกอินุยาฉะออก เธอและอินุยาฉะจึงได้มาเป็นคู่หูในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ลูกแก้วสี่วิญญาณแตกและกระจายไปทั่ว คาโกเมะเป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดี และมีจิตใจที่บริสุทธิ์ (แม้บางทีอาจจะติดระแวงหรือขี้หึงเล็กๆ แต่มักเก็บเอาไว้คนเดียว) เป็นผู้ที่มีพลังในการชำระล้างความชั่วร้าย ธนูของเธอสามารถทำลายไอปีศาจรวมทั้งต่อสู้กับปีศาจได้เก่งกล้าไม่แพ้อาวุธของคนอื่นๆ นอกจากนี้เธอยังมีไม้เด็ดก็คือ คำสั่ง "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ซึ่งเป็นอาคมที่จะฉุดประคำที่คอของอินุยาฉะให้เขาสงบลง หยุดการเคลื่อนไหว หรือใช้เพื่อทำโทษอินุยาฉะได้ชะงักนัก ส่วนในโลกปัจจุบันนั้นคาโกเมะมีเพื่อนสนิทชื่อว่า ยูกะ เอริ และอายูมิ และมีเพื่อนร่วมทางเพื่อไปรวบรวมลูกแก้วสี่วิญญาณคือ มิโรคุ ซังโกะ ชิบโป และคิราร่า คาโกเมะมีหนุ่มๆหลายคนที่หมายปองคือ โคงะ หัวหน้าหมาป่าอสูร และ โฮโจคุง เพื่อนร่วมโรงเรียน คาโงเมะสูง157.5เซนติเมตร หนัก49กิโลกรัม
คิเคียว (Kikyo) 
มิโกะผู้คุ้มครองลูกแก้วสี่วิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ เป็นคนสุขุมจริงจัง ไม่แสดงออก และมีใบหน้าอมทุกข์ ในอดีตคิเคียวเคยรักอินุยาฉะแต่เพราะกลอุบายของนาราคุ จึงทำให้ผิดใจกับอินุยาฉะ เธอจึงได้ผนึกอินุยาฉะไว้แล้วตายด้วยบาดแผลไปพร้อมลูกแก้วสี่วิญญาณ 50 ปีต่อมาคิเคียวได้กลับชาติมาเกิดเป็น คาโกเมะ และจากนั้นไม่นานก็ได้ถูกทำให้ฟื้นคืนชีพให้มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยน้ำมือของปีศาจอุราซึเอะเพื่อตามหาเศษลูกแก้ว แต่เธอก็ไม่ได้ทำตาม กลับฆ่าคนที่ปลุกชีพทิ้งและปลีกวิเวกเดินทางออกไปแก้แค้นนาราคุตามลำพัง หลังจากที่รู้ความจริงว่าโศฏนาฎกรรมระหว่างเธอกับอินุยาฉะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันคิเคียวซึ่งยังมีใจให้อินุยาฉะอยู่ก็มักจะออกโรงมาช่วยเหลืออินุยาฉะอยู่เสมอ ต่อมาเธอถูกความชั่วร้ายในใยแมงมุมของนาราคุเข้าครอบงำจิตใจจึงไม่สามารถชำระล้างลูกแก้วและช่วยโกฮักคุได้ คิเคียวจึงฝากโกฮักคุไว้ใต้การดูแลของคาโกเมะและใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่พร้อมจะสะกดนาราคุให้ตายตกไปตามกันแต่ไม่สำเร็จเพราะความชั่วร้ายของนาราคุมีมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามคาโกเมะได้ใช้ธนูแห่งเขาอาสึซะชำระล้างความชั่วร้ายในตัวของคิเคียวและช่วยวิญญาณของเธอเอาไว้ได้ คิเคียวจึงไม่ต้องใช้เวลาในวาระสุดท้ายแต่เพียงลำพังและได้เสียชีวิตลงอีกครั้งภายในอ้อมกอดของอินุยาฉะ ชายคนที่เธอรัก คิเีคียวสูง158เซนติเมตรหนัก50.3กิโลกรัม
เส็ตโชมารู (Sesshomaru) 
เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของอินุยาฉะแต่ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก เป็นคนเลือดเย็นและเย็นชา มีผู้ติดตามเป็นปีศาจร่างเล็กนามว่า จาเก็น เส็ตโชมารูมีดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดาบเขี้ยวอสูรที่ทำมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกายโดยมีท่าไม้ตายคือ จันทร์เสี้ยวปรภพ ที่เมื่อฟันออกไปจะเกิดหลุมดำขนาดมหึมาดูดคู่ต่อสู้ไปยังปรโลกได้ นอกจากนี้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นยังมีอิทธิฤทธิ์ช่วยชุบชีวิตผู้ที่ตายไปแล้วให้กลับมาชีวิตได้ถึง100คนในด้วยการกวัดแกว่งเพียงครั้งเดียว และพลังในการชุบชีวิตของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นนี้เองที่ทำให้เซโชมารุได้พบกับ ริน เด็กน้อยกำพร้าผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการปะทะกับดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะซึ่งโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจฆ่าตายและใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส็ตโชมารูได้มองโลกในแง่มุมใหม่ มีความคิดที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่น รู้สึกโกรธแค้นเพื่อผู้อื่น รู้จักความรัก และเป็นคนที่ดีขึ้น แต่นอกจากดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นแล้วเส็ตโชมารูก็ยังมีดาบเขี้ยวดินระเบิดที่มาพร้อมกับแขนซ้ายของเขา เส็ตโซมารุสูง185.42เซนติเมตรหนัก76กิโลกรัม
มิโรคุ (Miroku) 
นักบวชจอมลามกจีบผู้หญิงไปวันๆ เจอผู้หญิงสวยๆที่ไหนก็มักจะพูดว่า"ช่วยคลอดลูกให้ข้าสักคนได้มั้ยครับ"จนติดเป็นนิสัย แต่ว่ามีเพียงซังโกะเป็นคนที่เขารักอย่างจริงจัง มิโรคุตัดสินใจร่วมเดินทางไปปราบนาราคุเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หลักจากที่ปู่ของเขาถูกนาราคุสาปให้มีช่องว่างแห่งลมที่มือซึ่งเป็นคำสาปที่จะสืบทอดไปยังลูกหลานจนกว่านาราคุจะถูกกำจัด โดยช่องว่างแห่งลมสามารถดูดทุกสิ่งให้หายไปในความว่างเปล่า แต่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะดูดกลืนตัวเจ้าของเองโดยไม่เหลือแม้แต่กระดูก ภายหลังในตอนจบของเรื่อง คำสาปช่องว่างแห่งลมได้ถูกทำลายและมิโรคุก็ได้ร่วมชีวิตครอบครัวกับซังโกะโดยมีลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน มิโรคุสูง165เซนติเมตรหนัก68.9กิโลกรัม
ซังโกะ (Sango) 
นักล่าปีศาจฝีมือดีที่ถูกนาราคุหลอกไปทำร้ายจนปางตายด้วยน้ำมือของ โคฮาคุ ผู้เป็นน้องชายตัวเองซ้ำยังถูกนาราคุเป่าหูว่าทุกคนในหมู่บ้านซังโกะถูกล้างเผ่าพันธุ์ด้วยเป็นฝีมือของอินุยาฉะ ทำให้ซังโกะโกรธแค้นตามไปล้างแค้นกับอินุยาฉะ แต่เมื่อหลังจากรู้ความจริง ซังโกะจึงเข้าร่วมกับอินุยาฉะเพื่อกำจัดนาราคุ ต่อมาได้ตกลงเป็นคู่รักกับมิโรคุ พร้อมกับสัญญากันว่าจะแต่งงานกันเมื่อแก้แค้นนาราคุได้แล้ว มีอาวุธประจำกายคือ กระดูกบิน หรือ บูมเมอแรงยักษ์ ในตอนท้ายสุดของเรื่องเธอตกลงแต่งงานสร้างครอบครัวกับมิโรคุ ทั้งสองมีลูกๆด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน ซังโกะสูง160เซนติเมตร
ชิปโป (Shippo) 
เป็นลูกของปิศาจจิ้งจอกซึ่งถูกพี่น้องไรจู (มันเต็น และ ฮิเต็น) ฆ่าตาย ทีแรกต้องการมาขโมยลูกแก้วสี่วิญญาณของคาโกเมะเพื่อไปแก้แค้นให้พ่อแต่ได้อินุยาฉะมาช่วยแก้แค้นให้ ชิปโปจึงถืออินุยาฉะเป็นผู้มีพระคุณและร่วมเดินทางมากับพวกอินุยาฉะมาตลอด แต่ดูเหมือนจะสนิทกับคาโกเมะมากกว่าเพราะถูกอินุยาฉะแกล้งอยู่เป็นประจำ ชิปโปมีวิชาแปลงร่างได้ ชอบวาดภาพระบายสี เจ้าชู้เล็กๆ ถึงจะยังเป็นเด็กแต่บางครั้งก็กล้าหาญไม่เบาเลย
คิราร่า (Kirara) 
เป็นสัตว์คู่ใจของซังโกะ คิราร่าได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของซังโกะตั้งแต่ซังโกะยังไม่เกิด และยังมีคนเชื่อว่าคิราร่ายังเคยเป็นสัตว์คู่ใจของมิโกะนามว่า มิโดริโกะ ผู้ที่เคยปกป้องหมู่บ้านจากพวกปีศาจและเป็นผู้ที่สร้างลูกแก้วสี่วิญญาณขึ้นมา คิราร่านั้นมี 2 ร่าง ร่างหนึ่งคือแมวตัวเล็กๆน่ารัก แต่อีกร่างหนึ่งคือแมวปีศาจที่มีร่างกายใหญ่โต สามารถลอยได้ และนอกจากเป็นเพื่อนร่วมรบคู่ใจของซังโกะแล้ว คิราร่ายังเป็นพาหนะให้ซังโกะ มิโรคุ และ คาโงเมะ (ในตอนที่อินุยาฉะไปพบคิเคียว) ขี่ได้อีกด้วยอ

มิโดริโกะ 
ผู้ที่เคยปกป้องหมู่บ้านจากพวกปีศาจ ต่อมาพวกปีศาจได้รวมตัวกันรุมทำร้ายมิโดริโกะ มิโดริโกะจึงนำวิญญาณของพวกปิศาจมาใส่ในร่างตน และสิ่งที่ออกมาจากร่างของมิโดริโกะก็คือ "ลูกแก้วสี่วิญญาณ" ซึ่งมิโดริโกะก็ยังคงสู้กับพวกปีศาจในลูกแก้วตลอดมา
ริน (Rin) 
เดิมเธอเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาแต่เธอต้องมาเห็นพ่อแม่ของเธอถูกโจรป่าฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาเธอจึงช็อคจนพูดไม่ได้ วันหนึ่งโชคชะตานำพาให้รินไปเจอกับเซโชมารุได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการปางตายจึงช่วยรักษาบาดแผลให้ แต่ต่อมาโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจของโคงะ ฆ่าตายแต่ได้เซโชมูรุใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นช่วยชีวิตเอาไว้ได้ หลังจากรอดจากความตายมารินจึงคอยติดตามเซโชมารุไปตลอดเวลาและกลับมาพูดดังเดิมได้แถมยังพูดมากอีกซะด้วย ภายหลังเซโชมารุได้ฝากรินไว้ในความดูแลของท่านคาเอดะ ที่หมู่บ้านโดยแวะเวียนมาเยี่ยมเด็กน้อยและเอาของกำนัลมาให้บ้างเป็นครั้งคราว
โกฮาคุ (Kohaku) 
น้องชายของซังโกะ เขาถูกนาราคุควบคุมจิตใจให้ฆ่าพ่อและพวกพ้องของตัวเอง และยังลบความทรงจำของโกฮักคุ เพื่อใช้ให้โกฮักคุจัดการกับซังโกะและพวกอินุยาฉะ แต่ภายหลังก็ได้ความทรงจำกลับคืนมาแต่ไม่เอ่ยปากบอกใครเพื่อหาจังหวะเพื่อจะจัดการกับหัวใจของนาราคุ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซังโกะโกรธแค้นนาราคุมาก โกฮักคุได้ร่วมมือกับคากุระในการทรยศนาราคุ แต่นาราคุรู้ทันจึงสังหารคากุระซะ ก่อนที่คากุระจะถูกฆ่าได้ใช้ขนนกพาโกฮักคุหนีไป ต่อมาโกฮักคุก็ไปหลบอยู่กับคิเคียวแต่ตอนที่นาราคุคิดจะใช้ใยแมงมุมเพื่อที่จะให้จิตใจของคิเคียวมัวหมองจึงให้โกฮักคุหนีไปโดยมีชิคิงามิคอยติดตาม แต่นาราคุรู้ทันจึงส่งเบียคุยะมาดักกลางทางแต่ก็ได้เซโชมารุมาช่วยไว้จึงได้มาอยู่กับเส็ตโชมารูในที่สุด ในตอนจบของเรื่อง โกฮักคุออกผจญโลกกว้างเพียงลำพังเพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักล่าปีศาจที่เก่งกาจที่สุด
โคงะ (Koga) 
หัวหน้าของเผ่าหมาป่าปีศาจ ผู้เป็นคู่กัดกับอินุยาฉะเพราะะหลงรักคาโกเมะ (แต่โคงะเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ อายาเมะ) โคงะมีเศษลูกแก้วอสูรฝังอยู่ที่แขนขวาและขาทั้ง2ข้าง (ภายหลังเหลือแค่ที่ขา2ข้าง เพราะถูกปีศาจนก โกคุรักคุ ที่เป็นคู่อริชิงไป) โคงะออกตามล่านาราคุ โดยการถอนตัวออกจากการเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าของตนเพื่อมาแก้แค้นนาราคุ เพราะนาราคุได้ฆ่าพรรคพวกของเขาไปมากมายเพียงเพื่อจะเป็นเครื่องมือในการกำจัดอินุยาฉะไปให้พ้นทาง แต่ในภายหลังได้ถูกนาราคุชิงเอาเศษลูกแก้วไป จึงออกจากกลุ่มของพวกอินุยาฉะเพื่อกลับไปเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าตามเดิม โคงะสูง176เซนติเมตร
จาเก็น (Jaken) 
จาเก็นเป็นปิศาจรับใช้ที่คอยติดตามเซโชมารุ จงรักภักดีต่อเซโชมารุมากแต่มักจะโดนเซโชมารุแสดงท่าทีเย็นชาโหดร้ายใส่อยู่เสมอ เขาจึงต้องคอยสังเกตดูสีหน้าของเซโชมารุตลอดเวลา จาเก็นมีอาวุธเป็นไม้เท้าหัวคนของจาเก็นสามารถพ่นไฟที่ร้ายแรงมากจนสามารถทำลายอะไรที่อยู่เบื้องหน้าไม้เท้านั้นให้ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านได้
คาเอเดะ (Kaede) 
น้องสาวของคิเคียวผู้เป็นมิโกะดูแลหมู่บ้านและคอยให้คำแนะนำต่างๆแก่พวกอินุยาฉะ
โทโตไซ 
เป็นช่างตีดาบฝีมือเยี่ยม ลูกน้องที่ภักดีของท่านขุนพลสุนัขอสูรพ่อของอินุยาฉะ เป็นผู้ตีดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะ และดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเส็ตโชมารู ปู่เมียวกะมักจะมาหลบภัยอยู่ด้วยบ่อยๆ
เมียวกะ (Myoga) 
เป็นปีศาจหมัด ผู้ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆแก่อินุยาฉะ เดิมทีเป็นผู้ติดตามท่านพ่อของอินุยาฉะ ปู่หมัดเมียวกะติดนิสัยอยู่อย่างหนึ่งคือ พอมีเรื่องอันตรายเมื่อไหร่จะหายไปเป็นคนแรกทันที
อินุไทโช 
เป็นจอมปีศาจหมาจิ้งจอก พ่อของอินุยาฉะ เส็ตโชมารู และอิจิโนเสะหรือฮาร์ท เป็นเจ้าของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น (ที่อยู่กับเส็ตโซมารู) และดาบเขี้ยวอสูร (ที่อยู่กับอินุยาฉะ) และดาบโซอุนกะ เสียชีวิตในวันเดียวกับที่อินุยาฉะเกิด เพราะปกป้องเจ้าหญิงอิซาโยอิและทารกน้อยไว้ เป็นผู้มอบเสื้อขนหนูไฟและชื่อ อินุยาฉะ ให้กับอินุยาฉะ
อิซาโยอิ
แม่ของอินุยาฉะ เป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่หลงรักกับอินุไทโชผู้เป็นอสูร มีจิตใจอ่อนโยน งดงามสมเป็นขัตติยนารี ดูแลอินุยาฉะอย่างดีมาเพียงลำพัง แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมที่โชคร้ายเพราะไม่มีใครยอมรับ และได้เสียชีวิตลงเมื่ออินุยาฉะอายุ 5 ขวบ
ท่านแม่ของเส็ตโชมารู 
เป็นปีศาจจิ้งจอกเต็มตัว ในร่างมนุษย์มีโฉมที่งดงามแต่ทว่าเป็นคนเย็นชา เป็นผู้ดูแลศิลาปรโลกที่อินุไทโซเหลือให้ไว้สำหรับเป็นสิ่งที่สามารถทำให้พลังจันทร์เสี้ยวปรภพ (เมโด) ที่อยู่ในดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นกลายเป็นจันทร์ที่เต็มดวง

นาราคุ (Naraku) 
นาราคุเป็นครึ่งปีศาจที่เกิดจากแรงอาฆาตของโจรป่า โอนิงูโมะ ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสแต่ได้คิเคียวมาช่วยเอาไว้หลังจากโดนเผาไฟทั้งตัวหลังจากที่ถูกจับห่อเสื่อโยนลงไปในเหวลึกที่เรียกกันว่า "นาราคุ" (นรก) เพราะหักหลังพวกพ้อง โอนิคุโมะจึงหลงรักคิเคียวอย่างสุดหัวใจและต้องการแย่งคิเคียวจากอินุยาฉะ จึงเสนอพลังวิญญาณให้ปีศาจหลายร้อยหลายพันตัวเข้ากัดกินสิ่งสู่ในร่างกายกลายเป็นครึ่งปีศาจนาราคุ แต่จิตใจปีศาจของนาราคุก็บดบังความรู้สึกนึกคิดของโอนิงุโมะจนหมดจนกลายเป็นว่านาราคุวางแผนให้อินุยาฉะและคิเคียวฆ่ากันเองเพื่อช่วงชิงลูกแก้วสี่วิญญาณ นาราคุเป็นจอมวางแผน นิยมทำความชั่วช้าโดยไม่ให้มือตัวเองแปดเปื้อน เจ้าเล่ห์เพทุบาย และสามารถแบ่งร่างออกมาใช้งานได้หลายรูปแบบโดยมีสัญลักษณ์ประจำตัวเป็นรูปแมงมุมที่กลางหลัง
คันนะ (Kanna) 
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นจากความว่างเปล่าเป็นร่างแรก เป็นพี่สาวของคากุระ คันนะเป็นผู้ใช้กระจกที่สามารถดูดกลืนวิญญาณและสามารถสะท้อนพลังต่างๆกลับมาได้ เป็นสมุนที่นาราคุไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด แต่ภายหลังนาราคุทรยศเธอ โดยให้เธอสังเวยชีวิตเพื่อทำลายดาบเขี้ยวอสูร เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จจึงบังคับให้เธอตายและพาพวกอินุยาฉะไปด้วย
คันนะจึงใช้ความรู้สึกสุดท้ายเพื่อบอกคาโงเมะถึงวิธีกำจัดนาราคุ ทำให้ทุกคนรู้ว่าคันนะเองก็มีความรู้สึกและหัวใจเช่นกัน
คากุระ (Kagura) 
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นเป็นร่างที่ 2 ต่อจากคันนะ คากุระเป็นผู้ใช้ลมและสามารถเชิดศากซพของคนตายให้เคลื่อนไหวและต่อสู้ได้เหมือนมีชีวิต ต่อมา คากุระกลับใจเป็นคนดี และพยายามหาอิสรภาพให้กับตนเอง เธอหักหลังนาราคุด้วยการแอบไปส่งข่าวให้เซ็ซโซมารุอยู่เสมอ เพราะเธอเชื่อว่าเซสโซมารุมีพลังแข็งแกร่งมากพอที่จะเทียบเคียงนาราคุได้ ทว่าต่อมา คางุระถูกนาราคุทำร้ายปางตายเพราะช่วยโงฮักคุไว้ เธอยอมรับความตายอย่างสงบต่อหน้าเส๊ตโชมารูโดยไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากชายคนรักของเธอ ในที่สุดวิญญาณของเธอก็เป็นอิสระเช่นสายลมโดยแท้จริง ถึงแม้ร่างกายจะตายจากไป แต่ "สายลม" ก็ยังคงพัดผ่านอยู่เคียงข้างเส็ตโชมารูเสมอมา
ฮักคุโดชิ 
ร่างแยกอีกหนึ่งร่างของนาราคุ แยกออกมาตอนที่นาราคุหลบไปยังเขาฮักคุเร ซึ่งในตอนแรกคือหัวใจของนาราคุ หลังจากถูกนักบวชผ่าออกเป็นสองซีก ซีกที่มีหัวใจถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ส่วนซีกที่ไม่มีหัวใจคือฮักคุโดชินั่นเอง มีความสามารถพิเศษคืออ่านใจคนและครอบงำจิตใจคนได้ ต่อมาถูกมิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลมดูดกลืนเข้าไปตามแผนการของนาราคุ เหตุเพราะอยากเป็นใหญ่กว่านาราคุ
อากาโกะหรืออากาชิ 
หัวใจที่แท้จริงของนาราคุ มีความสามารถอย่างเดียวกับฮักคุโดชิแต่แกร่งกว่าหลายเท่านัก เป็นหัวใจที่ทรยศร่างเนื้อของตัวเอง ได้หินฟุโยเฮคิมาครอบครองเพื่อให้พลังปีศาจหายไป ทำให้ไม่มีศัตรูรายไหนตามเจอสุดท้ายอาศัยอยู่ในร่างของโมเรียวมารุเพื่อต่อสู้กับนาราคุและพวกอินุยาฉะ
โมเรียวมารู 
เป็นปีศาจที่ไม่มีจิตวิญญาณ สร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บซ่อนหัวใจ (อากาโกะ) เอาไว้ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญของอากาโกะที่จะใช้ต่อกรกับนาราคุและพวกอินุยาฉะ ต่อมาโมเรียวมารุได้ดูดกินปีศาจอื่นๆเพื่อให้ได้พลังปีศาจของปีศาจเหล่านั้นมาเสริมให้ตนแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายก็โดนนาราคุกลืนหัวใจของมันกลับเข้าร่างไป
เบียคุยะ 
ร่างแบ่งใหม่ของนาราคุ เป็นผู้สร้างภาพลวงตาและมายาแห่งฝัน สามารถถอดดวงตาของตนออกบินสังเกตการณ์ในที่ต่างๆได้ อาวุธที่ใช้เป็นประจำคือดอกราตรีขาว ซึ่งจะสร้างภาพลวงตาให้ศัตรูสับสน เนื่องจากคากุระ,ฮักคุโดชิ,โกฮาคุ และอากาโกะทรยศนาราคุ เบียคุยะจึงเป็นสมุนของนาราคุที่มีฤทธิ์มากที่สุด เพราะต้องทำหน้าที่แทนสมุนคนอื่นๆ
โกเรียวมารู 
แต่เดิมเป็นนักพรตที่ถูกปีศาจกลืนกินแขนข้างหนึ่งไป แต่โกะเรียวมารุได้ใช้มนต์สะกดปีศาจตนนั้นให้อยู่ในโอวาท และใช้พลังจากแขนปีศาจข้างนั้นในการปราบปีศาจ รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นสานุศิษย์เพื่อไปทำการล่าปีศาจโดยแจกน้ำเต้าบรรจุพลังแสงของแขนปีศาจให้ใช้สู้กับปีศาจ ต่อมาถูกสังหารโดยฮักคุโดชิและกลายร่างเป็นโมเรียวมารุ
หน่วยเจ็ดสังหาร 
เป็นกลุ่มทหารรับจ้าง ประกอบด้วย บังโกซึ เคียวโกซึ คินโกซึ มูโกซึ จาโกซึ เร็นโกซึ และซุยโกซึ แต่เดิมพวกเขาเป็นมนุษย์ซึ่งรับจ้างสู้รบและทำลายปราสาทเจ้าเมืองต่างๆในฐานะทหารรับจ้างที่ไม่เป็นข้ารับใช้ใคร แต่ถูกเจ้าเมืองที่เคยทำงานให้ร่วมมือกันหักหลัง ถูกจับได้และประหารชีวิตด้วยการตัดหัว เหล่าเจ้าเมืองกลัววิญญาณแค้นจึงฝังและผนึกไว้ กระทั่ง 15 ปีต่อมา นาราคุก็นำเศษลูกแก้วสี่วิญญาณมาคืนชีพให้ เพราะต้องการหลอกใช้หน่วยเจ็ดสังหารเป็นตัวช่วยถ่วงเวลากันพวกอินุยาฉะไว้ในขณะที่ตนเองกำลังเปลี่ยนร่างเพื่อเพิ่มพลัง
บังโกซึ(ผู้มีสันดานหยาบช้า) 
หัวหน้าหน่วยเจ็ดสังหาร มีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจที่สุดจึงถูกยกเป็นพี่ชายคนโตของกลุ่มแม้ว่าจะมีอายุน้อยที่สุดก็ตาม เป็นคนรักพวกพ้องมาก รอดชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้ายจึงต้องการจะแก้แค้นให้พวกพ้องที่ตายไป แต่สุดท้ายต้องตายเพราะโดนอินุยาฉะฆ่า
เคียวโกซึ(ผู้ชั่วร้าย) 
มีร่างกายใหญ่โตมาก บ้าพลังและตะกละ สุดท้ายก็ถูกโคงะฆ่าตายโดยการแย่งเอาเศษลูกแก้วออกมาจากหน้าผาก
คินโกซึ(ผู้มีร่างกายเป็นเหล็ก) 
มีร่างกายประกอบด้วยเหล็กและอาวุธต่างๆทั้งตัว ตายในขณะที่ต่อสู้กับโคงะ เพราะสละชีวิตตนช่วยเร็นโกซึซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของตนไว้
มูโกซึ(ผู้ใช้พิษ) 
มีหน้าตาที่น่าเกลียด เป็นผู้ใช้พิษ พิษของเขาร้ายแรงมากและมีหลายรูปแบบ เป็นสมาชิกคนเดียวในหน่วยเจ็ดสังหารที่บ้าผู้หญิง สุดท้ายก็โดนเส็ตโชมารุที่ตามกลิ่นไอปีศาจมาฆ่าตาย
จาโกซึ(ผู้ใช้งู) 
กายเป็นชายแต่มีนิสัยชอบผู้ชายด้วยกัน มีดาบกระดูกงูเป็นอาวุธ ชอบอินุยาฉะและมิโรคุ มีความซื่อสัตย์ต่อบังโกซึเป็นเลิศ แต่สุดท้ายตายเพราะโดนอินุยาฉะจัดการจนไม่เหลือพลังและโดนพวกพ้อง (เร็นโกซึ) หักหลังแต่ได้รับการล้างแค้นโดยบังโกซึในภายหลัง
เร็นโกซึ(ผู้ใช้ไฟ) 
เป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ คิดจะทรยศพวกพ้องของตนเอง และได้หลอกจาโกซึให้ไปถูกอินุยาฉะฆ่าเพื่อชิงเศษลูกแก้ว แต่สุดท้ายต้องถูกบังโกซึฆ่าตายเพราะโดนจับได้
ซุยโกซึ(ผู้หลับใหล) 
เป็นผู้ที่มีสองบุคลิกในคนเดียวกัน บุคลิกหนึ่งคือเป็นหมอที่ทีความมีเมตตา ช่วยเหลือคน แต่อีกบุคลิกหนึ่งคือเป็นผู้ที่มีจิตใจโหดร้าย ชื่นชอบการฆ่าฟันเป็นชีวิตจิตใจ ปกติแล้วจะถูกซุยโกซึที่มีจิตใจดีกดไว้อยู่แต่พอโมโหขึ้นมาซุยโกซึอีกคนหนึ่งก็จะปรากฏตัวออกมา สุดท้ายซุยโกซึได้ขอร้องให้คิเคียวเอาเศษลูกแก้วไปจากตนซะเพราะไม่อยากให้ใครต้องตายเพราะตนอีกแล้วแต่โดนจาโกซึแย่งไปก่อน
ไซเมียวโช 
เป็นแมลงที่มาจากขุมนรก มีพิษร้ายแรง ถูกนาราคุนำมาใช้ประโยชน์ในการทำลายช่องว่างแห่งลมของมิโรคุ โดยเมื่อไหร่ที่มิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลม ไซเมียวโชก็จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับบินเข้าไปในช่องว่างแห่งลมทันทีและนอกจากจะทำลายช่องว่างแห่งลมของมิโรคุได้แล้วไซเมียวโชยังสามารถสะกดรอยตามคนให้นาราคุได้อีกด้วย
แมลงส่งวิญญาณ (ชินิทามะจู) 
ถูกคิเคียวนำมาใช้ดูดวิญญาณของหญิงสาวที่ตายแล้วมาให้ตนเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตให้อยู่รอด แมลงส่งวิญญาณมีลักษณะลำตัวยาว คล้ายงูและมีสีขาวเรืองแสงเปล่งประกาย

ของวิเศษในเรื่อง[แก้]

ลูกแก้วสี่วิญญาณ[แก้]

ลูกแก้วสี่วิญญาณ หรือ ลูกแก้วอสูร คือลูกแก้วที่เกิดขึ้นจากหัวใจของมิโกะ นาม มิโดริโกะ ผู้มีอำนาจในการชำระล้างความชั่วร้าย และมีพลังวิญญาณที่แกร่งกล้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา เหล่าปีศาจที่เจ็บแค้นและกลัวอำนาจของมิโดริโกะจำนวนหลายสิบหลายร้อยตน ได้รวมร่างกันเพื่อสังหารมิโดริโกะ (แต่ในฉบับมังงะ พวกปีศาจได้แทรกเข้าไปในช่องว่างของจิตใจชายคนรักของมิโดริโกะ จนกำเนิดเป็นปีศาจตัวใหม่ คล้ายการเกิดของนาราคุ) ฝูงปีศาจและมิโดริโกะต่อสู้กันเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน จนมิโดริโกะอ่อนแรงและถูกกินไปครึ่งหนึ่ง มิโดริโกะจึงตัดสินใจควักหัวใจของปีศาจมาใส่ไว้ในหัวใจของตนเองและหลอมรวมไว้กลายเป็นลูกแก้วสี่วิญญาณ
ลูกแก้วสี่วิญญาณสามารถเพิ่มพลังอำนาจให้ทุกสิ่ง ตั้งแต่เพิ่มความแข็งแกร่ง ลดอาการเจ็บป่วย ชุบชีวิตคนตายได้ รวมถึงทำให้ผู้ครอบครองลูกแก้วสมความปรารถนาได้ จึงเป็นที่ต้องการของทั้งมนุษย์และปีศาจ หากลูกแก้วตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว หัวใจของปีศาจภายในลูกแก้วจะมีอำนาจมากกว่า จนกลายเป็นสีดำ และมีอำนาจในการทำลายล้าง แต่ถ้าอยู่ในมือของผู้มีพลังชำระ (เช่นคิเคียว และคาโงเมะ) จิตของมิโดริโกะก็จะมีพลังมากกว่า ลูกแก้วจะบริสุทธิ์ และมีอำนาจในการปกป้อง

ดาบเขี้ยวอสูร[แก้]

เป็นดาบที่ตีขึ้นจากเขี้ยวของอินุไทโชให้แก่อินุยาฉะไว้เพื่อปิดผนึกสายเลือดอสูรของอินุยาฉะ มีพลังในการปกป้อง สามารถตวัดดาบเพียงครั้งเดียวฆ่าได้เป็นร้อย โดยฟันเข้าไปยังแผลแห่งลม คือช่องระหว่างไอปีศาจที่มาปะทะกัน แต่หลังจากการต่อสู้หลายครั้งทำให้ดาบหักอินุยาฉะจึงใช้เขี้ยวตัวเองผสมกับเขี้ยวของพ่อตีเป็นดาบเขี้ยวอสูรแต่มีความหนักมากวิธีแก้ไขคือต้องใช้เขี้ยวของภูตมังกรกระดูก แต่จากการต่อสู้กับภูตมังกรกระดูกทำให้ดาบเขี้ยวอสูรเบาขึ้น และมีพลังคือสามารถใช้แผลแห่งลมได้ทุกเมื่อ และพลังคลื่นระเบิด ซึ่งใช้ได้กับอสูรที่มีพลังสูงเท่านั้น ต่อมาได้พลังในการทำลายเขตอาคมเป็นดาบเขี้ยวอสูรสีแดงจากการทำลายลูกแก้วของอสูรที่มีพลังสร้างเขตอาคมที่แข็งแกร่ง และจากการไปสุสานอินุไทโซทำให้ได้พลังคลื่นอสูรลิ่มเพชร และได้หลอมดาบเขี้ยวอสูรกับดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นทำให้ได้พลังจันเสี้ยวปรภพมา และยังเป็นตัวแทนแห่งโลกมนุษย์อีกด้วย

ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น[แก้]

ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น หรืออีกชื่อคือ ดาบ เท็นเซกะ คือ 1 ใน 3 ของดาบที่ตีขึ้นจากเขี้ยวของ อินุไทโช ผู้เป็นบิดาของอินุยาฉะและเซสโซมารุ มีลักษณะพิเศษคือไม่สามารถฟันสิ่งในภพธรรมดา แต่สามารถฟาดฟันสิ่งที่มีอยู่ในภพความตายได้ มีพลังอำนาจในการเรียกคืนวิญญาณ หรือ ชุบชีวิตให้กับคนตาย โดยการใช้ดาบเล่มนี้ฆ่าทูตมรณะที่จะมาวนเวียนใกล้ๆกับศพ
อย่างไรก็ตามดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น ไม่อาจคืนชีวิตแก่ผู้ที่ตายเป็นเวลานาน หรือ ปีศาจบางตัวได้ (เพราะปีศาจส่วนใหญ่จะสลายไปทันทีที่สิ้นใจ) ผู้ที่ฟื้นคืนชีพจากดาบเล่มนี้ ได้แก่ เจ้าหญิงอิซาโยย จาเก็น ริน เป็นต้น และดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นจะใช้ชุบชีวิตผู้ตายได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น เป็นมรดกสิ่งเดียวที่อินุไทโชเหลือไว้ให้เซสโซมารุ ซึ่งเซสโซมารุในตอนแรกเกลียดดาบเล่มนี้และไม่เคยชักขึ้นใช้ เพราะคิดว่าบิดาลำเอียง รักแต่ลูกที่เกิดจากหญิงมนุษย์ ถึงขนาดมอบดาบเล่มสำคัญอย่างเขี้ยวอสูรให้ แต่พอเรื่องราวต่างๆค่อยๆผ่านเข้ามา เซสโซมารุจึงเข้าใจว่า อินุไทโชต้องการสอนถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่ และความรักความรู้สึกที่มีให้กับผู้อื่น จากดาบเล่มนี้นั่นเอง หลังจากที่เซสโซมารุต้องเสียดาบโทคิชินไปเพราะต้องการล้างแค้นให้กับคากุระ โทโตไซก็ได้เสนอตัวเข้ามาพัฒนาดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นจนสามารถเรียกจันทร์เสี้ยวปรภพ (เมโด) ซึ่งสามารถดูดร่างกายของศัตรูไปยังอีกภพได้ เซสโซมารุจึงใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นเป็นอาวุธหลัก กระทั่งสามารถเรียกจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นขั้นสุดยอดของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นได้
จากการประมือกับอินุยาฉะดาบเล่มนี้จึงถูกหลอมรวมเข้าเป็นดาบของอินุยาฉะในที่สุด เป็นตัวแทนสวรรค์

ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง[แก้]

ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง หรือ ดาบโซอุนกะ เป็นดาบเล่มสุดท้ายใน 1 ใน 3 ดาบที่เป็นตัวแทนของอินุไทโช ดาบเล่มนี้สร้างขึ้นมาด้วยจุดมุ่งหมายที่แตกต่างจากสองเล่มแรกอย่างสิ้นเชิง เพราะโซอุนกะมีจิตใจเป็นของตนเอง และจะคอยบงการผู้ถือดาบให้เป็นไปในทางที่ตนต้องการ ดาบเล่มนี้มีอำนาจในการทำลายล้างอันเลวร้ายและรุนแรง สามารถเปิดนรก เรียกพายุหมุน เรียกพลังอสูรในร่างกาย แปรเปลี่ยนจิตใจให้กลายเป็นชั่วร้าย และคืนสภาพศพในรูปร่างผีดิบเพื่อใช้เป็นกองทัพได้ ถือเป็นดาบตัวแทนนรก
ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง ปรากฏตัวครั้งแรกใน อินุยาฉะเดอะมูฟวี่ 3 อภินิหารดาบครองฟ้าดิน โดยหลอมรวมกับมือที่ขาดไปของเซสโซมารุ คอยสิงสู่ผู้ถือดาบ ซึ่งพลังที่อันตรายนี้เองที่ดึงดูดให้สองพี่น้องแย่งชิงดาบเล่มนี้ เซสโซมารุต้องการนำไปใช้ และอินุยาฉะต้องการจะทำลาย
แต่ทว่าดาบกลับตกไปอยู่ในมือ"ทาเคมารุ" ซามูไรผู้เป็นศัตรูคนสำคัญของอินุไทโช และทำลายล้างจนโลกเกือบดับสูญ ทั้งสองพี่น้องจึงร่วมมือกันทำลายดาบโซอุนกะ และทิ้งมันกลับคืนสู่นรกภูมิ เป็นตัวแทนนรก

ดาบเขี้ยวดินระเบิด[แก้]

เป็นดาบที่อยู่ในร่างกายของเส็ตโชมารู ซึ่งจะได้มาก็ต้องหลุดพ้นจากการต้องการดาบเขี้ยวอสูรซะก่อน ดาบนี้ได้มาจากตอนการต่อสู้กับมากาซึฮิ และปรากฏมาพร้อมกับ แขนข้างซ้ายที่เคยถูกตัดไป และดาบเขี้ยวดินระเบิดมีคุณสมบัติคือ ฟันปิศาจแค่ทีเดียวจะระเบิดไปทั้งหมด และไม่เหลือแม้แต่เศษซาก ถ้าหากใครมาจับต้องซากที่ระเบิดหรือยังระเบิดไม่หมด ก็จะโดนระเบิดนั่นทำลายไปด้วย

ไข่มุกดำ[แก้]

เป็นอัญมณีเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับปรภพ อินุไทโชเคยใส่ไว้ในดวงตาขวาของอินุยาฉะตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แต่ถูกเส็ตโชมารูดึงออกมาในครั้งที่จะไปเอาดาบเขี้ยวอสูรจากสุสานอินุไทโช และไข่มุกดำเมื่อหมดหน้าที่ก็สลายไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น